ข้าคือจักรพรรดิเซียน
บทที่ 19 ความขัดแย้ง
บทที่ 19 ความขัดแย้ง
ห้องโถงโรงแรมซื่อจี้
หวางตงซานและหวางตงเหอกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง ข้างๆ เป็นซุนจิ้ง หวางหรงและ หวังเชานั่งอยู่ด้วยกัน
“พี่ ทำไมวันนี้เล่อเล่อไม่มา?”
หวางตงเหอถามหวางตงซาน
หวางตงซานไม่ตอบ กลับเป็นหวางหรงที่ถอนหายใจ ใบหน้าโศกเศร้า “เล่อเล่อเมื่อวานออกจากบ้านสะดุดล้มไปกระทบโดนสมอง ผลคือลืมเรื่องไม่กี่วันมานี้ไปหมด ตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลดูอาการ”
ใบหน้าของซุนจิ้งเผยรอยยิ้มสะใจบนความทุกข์ของผู้อื่น “ไอ้หย่า อย่างนั้นก็ต้องดูแลให้ดีๆ เกิดโง่ขึ้นมา ชีวิตที่เหลือจะทำยังไงล่ะทีนี้”
หวังเชาที่อยู่ข้างๆ ยิ้มเยาะ “ลำบากน้าซุนเป็นห่วงแล้ว พี่เขยแค่ได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองเล็กน้อย หมอบอกว่าพักฟื้นอีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่กลับเป็นพี่เยนหรันต่างหาก แต่งให้กับขยะอย่างนั้น จากนี้ไปจะทำยังไงล่ะทีนี้? ผมว่า รีบๆ หย่าซะเถอะ”
ซุนจิ้งนึกถึงเสียงร้องที่ได้ยินที่บ้านก่อนหน้านี้ แล้วก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญา ไม่มีอารมณ์จะเชือดเฉือนกับคนรุ่นหลังต่อ
หวางตงซานเองก็ยังเห็นด้วย “น้องชาย อันที่จริงเยนหรันอะไรๆ ก็ดีไปหมด นายจะต้องคิดให้ดีๆ อย่ามัวชักช้า”
“พี่ ผมรู้แล้ว” หวางตงเหอพยักหน้ารับ
“เอ๊ะ นั่นมู่หยุนและหวางเยนหรันไม่ใช่หรือ?”
จู่ๆ หวางหรงก็เอ่ยขึ้นมา
หวังเชาที่กำลังดื่มน้ำ พอได้ยินเข้าก็แทบสำลัก “เป็นไปได้ยังไง นี่มันงานอะไร เขาจะเข้ามาได้ยังไง?”
แต่ว่าทุกคนก็ยังไปมองดู และเห็นว่ามู่หยุนกำลังเดินจับมือเข้ามาพร้อมกับหวางเยนหรันจริงๆ
“เยนหรัน ที่นี่” ซุนจิ้งโบกมือและเรียกทั้งสองมา
หวางเยนหรันยิ้มทักทาย ก่อนจะดึงมู่หยุนไปนั่งข้างๆ ซุนจิ้ง
“คนแซ่มู่ นายไปแอบเข้ามาทางไหน ฉันจะบอกนายให้ อีกเดี๋ยวยามจะมาไล่นายออกไป”
หวังเชาขมวดคิ้ว แม้แต่เขายังต้องอาศัยฐานะของเสิ่นเล่อในการเข้ามา มู่หยุนมีคุณสมบัติอะไรที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้ได้
มู่หยุนไม่ตอบ หวางเยนหรันที่อยู่ด้านหนึ่งอธิบาย “พี่มู่รู้จักเจ้าเมือง ...”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบหวังเชาและหวางหรงก็หัวเราะขึ้นมาในทันที
“อย่ามาล้อเล่น คนอย่างเขา? รู้จักเจ้าเมืองงั้นหรือ...รู้จักในฝันน่ะสิ”
หวางตงเหอและซุนจิ้งสบตากัน รู้ว่าสิ่งที่ลูกสาวของพวกเขาพูดนั้นอาจจะเป็นความจริง
หวางตงซานสังเกตเห็นว่าเสียงหัวเราะดึงดูดความสนใจของแขกที่อยู่รอบๆ เขารีบเอ่ยเสียงเบา “เบาหน่อย ไม่ดูซะบ้างว่าที่นี่มันงานอะไร อยากตายหรือไง”
พี่น้องหวางหรงรีบหุบปากลงทันที
ในเวลานี้เอง ฝันถ่าก็พาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนเดินเข้ามาจากอีกด้านด้วยความโกรธ เขามองหวางตงเหอ จากนั้นพูดด้วยความเยาะเย้ย “เหล่าหวางเอ๋ย ไอ้เด็กนี่ก็คือเขยแต่งเข้าของนายสินะ?”
“นายหมายความว่ายังไง”
หวางตงเหอมองฝันถ่าอย่างรังเกียจ
“หมายความว่ายังไง? ท่านเจ้าเมืองขอให้ฉันรับผิดชอบงานในวันนี้ แต่ลูกเขยแต่งเข้าของนายกลับให้ของขวัญมาเป็นเศษแก้วชิ้นหนึ่ง เมื่อกี้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแล้วยังต้องส่ายหัวและพูดกับฉัน “จากนี้ไปอย่าเอาพวกแก้วพวกนี้มาให้ผมดูอีก ฮ่าฮ่า ตลกจะตายแล้ว”
“สมกับที่เป็นลูกเขยของนายหวางตงเหอจริงๆ”
“ยังกล้าส่งมาได้ ถ้าเป็นฮฉัน คงไม่มีหน้ามาแล้ว”
“คนแบบนี้เข้ามาได้ยังไง ช่างเป็นหลุมดำจริงๆ”
หวางตงเหอโกรธจนตัวสั่น แต่กลับไม่สามารถเอ่ยปากตอบโต้ได้ ได้แต่ฝืนความโกรธเอาไว้
ซุนจิ้งมองไปที่มู่หยุน “นายส่งเศษแก้วไป?”
มู่หยุนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ และไม่อธิบายอะไร
“น่าขายหน้าจริงๆ” ซุนจิ้งแค่นเสียง ไม่สนใจมู่หยุนอีก
หวังเชาที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างมีความสุข “หา เข้ามาทางประตูใหญ่จริงๆ หรือนี่ ฉันคิดว่านายเข้ามาจากหลุมหมาซะอีก”
หวางหรง “พรูด” หัวเราะออกมา “นี่คือโรงแรมซื่อจี้เชียวนะ จะมีหลุมหมาได้ยังไง”
ฝันถ่าหัวเราะจนพอ จากนั้นก็มองไปที่มู่หยุนอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดกับหวางตงเหอ นายลองดูตัวเองเถอะ แต่งเขยขยะเข้ามา วันๆ อยู่ฟรีกินฟรีไม่พอ แต่ยังทำให้ตระกูลหวางของนายขายขี้หน้า หากเป็นฉันคงให้เยนหรันหย่าไปตั้งนานแล้ว นายคิดดู หาขยะแบบนี้ ให้ฉันไปเป็นลูกเขยของนายเสียยังจะดีกว่า หึหึ”
เมื่อมองไปที่สีหน้าทั้งอับอายและโมโหของหวางตงเหอ ในใจของฝันถ่าก็มีความสุขอย่างยิ่ง พี่ชายของเขาเป็นพ่อบ้านของคฤหาสน์เจ้าเมือง ทั้งสูงส่งและมีอำนาจ เมื่อเทียบกับตระกูลหวางแล้วก็ยังมีอำนาจเหนือกว่า ดังนั้นจึงไม่เกรงกลัวตระกูลหวางเลยสักนิด
“เหล่าฝัน นายนับวันยิ่งเกินเลยไปหน่อยแล้ว” หวางตงเหอชี้หน้าด่าฝันถ่า
“โอ๊ะโอ๊ะโอ๊ะ เหล่าหวางนายอย่าเพิ่งโมโห ก็แค่ล้อเล่นเอง แต่ว่านายคิดดูสิ ที่ฉันพูดก็มีเหตุผลไม่ใช่หรือไง” ดวงตาของมู่หยุนมีประกายเย็นเยือกวาบผ่าน เขาเอ่ยปาก “นายไปเอาป้ายหยกนั่นให้เย่นซิน เขาย่อมจำได้เอง”
“สามหาว!”
ฝันถ่าตบโต๊ะ “นายกล้าเรียกชื่อเจ้าเมืองโดยตรงแบบนี้ ไอ้สุนัขใจกล้า”
“ใครก็ได้ มาเอาไอ้เด็กนี่ออกไป”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลังฝันถ่ามองหน้ากัน ก่อนจะเข้าไปกดลงที่ไหล่ของมู่หยุน
“ผัวะ ผัวะ”
แค่พริบตาเดียว ทุกคนก็เห็นว่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนล้มลงไปอยู่ไม่ไกล และสลบไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ไม่มีใครเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
“ได้ แกยังกล้าลงมือด้วย แกคิดว่าอาศัยอำนาจของตระกูลหวางแล้วจะทำผิดอะไรก็ได้งั้นหรือไง? นายรอฉันให้ดีเถอะ”
ใบหน้าของฝันถ่าเผยรอยยิ้มร้ายกาจ จากนั้นจึงรีบสะบัดตัวออกไป เห็นชัดว่าไม่ยอมแพ้
บรรยากาศบนโต๊ะเย็นลงอย่างกะทันหัน แขกที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็กระซิบกระซาบกัน ท่าทางรอดูเรื่องสนุก
หวังเชารู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่แววตากลับมีร่องรอยสะใจ “คนแซ่มู่ ให้ดีนายไปนั่งที่อื่นซะ อย่ามาลำบากพวกเราไปด้วย!”
ซุนจิ้งกังวล “ต่อไปจะทำยังไง หากไล่พวกเราออกไปขึ้นมา ตระกูลหวางไม่เสียหน้าแย่งั้นหรือ” นี่พูดจบเธอก็เหลือบไปมองมู่หยุนอย่างเกลียดชัง
“เขามุ่งเป้ามาที่พวกเราตระกูลหวาง มู่หยุนก็แค่เป็นข้ออ้างเท่านั้น” หวางเยนหรันเอ่ยทวงความยุติธรรมให้มู่หยุน
หวางตงซานที่อาวุโสที่สุดในโต๊ะกระแอมขึ้นก่อนจะพูดกับมู่หยุน “มู่หยุน ไม่อย่างนั้นนายกลับไปก่อนเถอะ หากคิดจะกินอาหารมื้อนี้จริงๆ อีกเดี๋ยวให้เยนหรันห่อกลับบ้านไปให้นายสักหน่อย เป็นไง?”
“พี่ แบบนี้ไม่ดีมั้ง ยังไงเขาก็รู้จักกับเจ้าเมือง” หวางตงเหอรีบส่งสายตาให้หวางตงซาน
ใครจะรู้ว่าหวางตงซานกลับทำเป็นมองไม่เห็น แล้วเอ่ยสั่งสอนด้วยท่าทีจริงใจ “น้องชาย ทำไมนายถึงเลอะเลือนไปด้วย? ตอนนี้เขาไม่มีแม้กระทั่งงานทำ จะไปรู้จักกับเจ้าเมืองได้ยังไง เห็นทีดูเหมือนว่าฉันต้องพิจารณาใหม่เรื่องตัดสินใจย้ายคุณออกจากกรมทรัพยากรน้ำแล้ว”
หวางตงเหอมีสีหน้าชะงักค้างไป การย้ายออกจากกรมทรัพยากรน้ำเป็นสิ่งที่เขาปรารถนามาตลอด แต่เดิมเมื่อวานพี่ใหญ่ได้ตกลงด้วยแล้ว มาตอนนี้กลับบอกว่าต้องพิจารณาใหม่อีกครั้ง
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็โมโหจนแทบจะพ่นไฟ และเห็นไปโทษมู่หยุน “ให้นายกลับไป นายไม่ได้ยินหรือไง?”
มู่หยุนยิ้มเยาะ “ได้ ในเมื่อที่นี่ไม่ต้อนรับ ฉันไปนั่งที่อื่น”
เมื่อเห็นมู่หยุนไม่ฟังและเดินจากไป หวางตงซานก็มีสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะแค่นเสียงออกมา ในขณะที่ดูหวังเชาที่หลบอยู่ข้าง ๆ กำลังรอดูเรื่องสนุกบนความทุกข์ของผู้อื่น
......
อีกด้านหนึ่ง ในห้องชุดประธานาธิบดีของโรงแรมซื่อจี้
เจ้าเมืองเย่นซินกำลังสนทนากับฮวงจุน เพื่อรอให้งานเลี้ยงเริ่มขึ้น
ในเวลานี้เองก็เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา” เย่นซินเอ่ย
ประตูถูกเปิดออก ฝันถ่าเดินน้อมตัวเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่ประจบบนใบหน้า
“ท่านเจ้าเมืองสวัสดีครับ ท่านฮวงสวัสดีครับ”
“มีอะไรก็พูดมา พูดเสร็จรีบไสหัวไป” เย่นซินเอ่ยปากอย่างรำคาญ
“ท่านเจ้าเมือง มีคนฝ่าฝืนคำสั่งในงานเลี้ยง และทุบตีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย”
เย่นซินมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที ทั่วทั้งเมืองเจียง ถึงกับมีคนกล้าไม่ไว้หน้าเขา อีกทั้งยังเป็นในวันสำคัญขนาดนี้ด้วย!
“เป็นใคร ไม่อยากอยู่แล้ว!” พูดจบ จิตสังหารของเย่นซินก็พุ่งขึ้นมาทันที
ข้าคือจักรพรรดิเซียน