ข้าคือจักรพรรดิเซียน
บทที่ 33 คำโกหก
บทที่ 33 คำโกหก
“แก...แก...”
หวางเสี้ยงตงอึ้งจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ กลับเป็นเสิ่นเล่อที่มีอารมณ์ขึ้นมา ชี้ไปที่หน้าตัวเองที่ยังคงบวมแดง: “ไอ้ตัวดีมู่หยุน ไม่พูดถึงเรื่องที่แกตบฉันก่อน ยังไปทำให้ต่งเลี่ยงต้องเข้าโรงพยาบาลอีก แกรู้อิทธิพลของตระกูลต่งไหม?”
“แกก่อมหันตภัยครั้งใหญ่แล้ว! ยังไม่รู้จักสำนึกผิด กลับทำเหมือนคนไม่มีเรื่องอะไร ฉันจะบอกกับแก วันนี้แกจะต้องมีคำอธิบายให้ฉัน”
“อีกเดี๋ยวคนของตระกูลต่งมา แกอย่าคิดว่าเราจะปกป้องแก เจตนาทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส อย่างน้อยก็ต้องให้แกติดคุกสักสิบห้าปี ดูสิว่าแกจะยังโอหังอย่างไร”
คนอื่นๆยังดี หวางเยนหรันได้ยินก็ตกใจไปในทันที
สิบห้าปี!
ถ้าหากติดอยู่ในคุกสิบห้าปีจริงๆ คนนั้นไม่ใช่จะหมดอนาคตแล้วเหรอ
“คุณปู่ คุณปู่ช่วยพี่มู่ขอร้องกับตระกูลต่งได้ไหมคะ ขอร้องนะคะคุณปู่”
หวางเยนหรันวิงวอนขอร้อง
“พี่ พี่ว่าพี่จะหาเรื่องกลุ้มใจไปทำไม ถ้าหากว่าคนแซ่มู่เข้าไปแล้ว ผมที่เป็นน้องชายคนนี้จะต้องหาคนที่ดีกว่าให้พี่แน่อยู่แล้ว”
หวังเชายิ้มอย่างมีชัย พูดตัดกำลังใจอยู่ด้านหนึ่ง ในใจของเขา สามารถทำให้หวางเยนหรันแต่งงานออกไปได้จริงๆ แบบนั้นตัวหารในมรดกก็จะน้อยลงไปหนึ่งคนแล้ว!
เสียดาย หวางเยนหรันกลับแต่งลูกเขยเข้าบ้าน เช่นนี้แผนการในใจของหวังเชาก็ล้มเหลวไป ดังนั้นจึงต่อต้านมู่หยุนตลอด ในที่สุดครั้งนี้ก็หาโอกาสได้แล้ว
ดวงตาเขาเป็นประกาย ในใจคิดไปถึง: ทรัพย์สินของครอบครัวหวางเป็นของตัวฉันเอง ใครก็อย่าคิดจะมาแย่งไป!
หวางเสี้ยงตงชำเลืองมองมู่หยุนแวบหนึ่ง ยิ้มเย้ยหยันออกมา พูดว่า: “ขอร้อง? เขาสามารถทำให้ลูกชายของประธานกรรมการของบริษัทต่งซื่อเข้าโรงพยาบาลได้ ความสามารถเยอะขนาดนั้น ยังจะต้องให้ฉันไปขอร้อง?”
“คุณปู่...”
หวางเยนหรันน้ำตาไหลพรากออกมา เพื่อปกป้องเธอมู่หยุนถึงได้ทำความผิดไป เธอจะทนดูเขาถูกจับไปได้อย่างไร?
มู่หยุนหัวเราะเสียงเบาออกมา เดินก้าวมาข้างหน้ากุมมือเล็กที่เย็นเฉียบของหวางเยนหรันเอาไว้ หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ: “คุณปู่รอบรู้มากกว่าจริงๆ คุณวางใจเถอะ ผมไม่เป็นไรหรอก”
มุมปากของหวางเสี้ยงกระตุกขึ้น หลอดเลือดดำบนหน้าผากเต้นตุ๊บๆขึ้นมา หรือว่าเขาจะไม่รู้ว่าที่ฉันพูดเป็นคำประชดประชัน? หรือว่าจงใจทำให้ฉันโมโห ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ยกแขนที่สั่นเทาขึ้นมา ชี้ไปที่มู่หยุน: “แกไอ้เดรัจฉาน ไสหัวไป ไสหัวออกไปเลย”
หวังเชารีบรุดมาข้างหน้าแล้วตบหลังให้หวางเสี้ยงตงเบาๆ: “คุณปู่อย่าโกรธจนเสียสุขภาพ เขามีความสามารถมากไม่ใช้เหรอ งั้นก็ไล่เขาออกจากตระกูลหวางเลย ดูสิว่าเขาไม่มีตระกูลหวางคอยหนุนหลังแล้วยังจะจองหองอวดดีอะไรอีก”
ไล่ออกจากตระกูลหวัง!
หวางตงเหอรีบลากมู่หยุนพูดตำหนิว่า: “เดรัจฉานชั่วช้า ยังไม่ยอมรับความผิดกับคุณปู่อีก หรือแกอยากเข้าไปอยู่ในคุกจริงๆ?”
“ผมไม่ได้ทำความผิดอะไรสักหน่อย ทำไมต้องขอโทษด้วย?”
มู่หยุนสลัดจากการลางดึงของหวางตงเหออย่างไปไม่แสดงอาการอะไร พูดต่อไปอีกว่า: “กลับเป็นคนบางคน มีเจตนาไม่ดี แม้แต่น้องสาวของตัวเองก็ยังไม่ปล่อยไป ยังไปร่วมมือกับคนนอกคิดแผนหลอกลวงทำลายอีก”
“คนแซ่มู่ แกอย่าใส่ร้ายคนให้มาก แกทำให้คุณชายตระกูลต่งต้องเข้าโรงพยาบาลไป ยังจะบอกว่าไม่ผิดอีก นี้แกคิดจริงๆหรือว่าตระกูลหวางจะไม่ไล่แกออกจากตระกูล?”
ในใจเสิ่นเล่อเต้นตุบตับขึ้นมาเล็กน้อย รู้สึกท่าจะไม่ดีขึ้นมาทันที
“ผมว่าคุณแล้วหรือ? คุณกระโดดออกมาทำไม หรือว่าจะร้อนตัว?”
มู่หยุนหัวเราะเยาะ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า
เวลานี้ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เสิ่นเล่อ
ความจริงคำพูดเมื่อกี้ของมู่หยุนก็ชัดเจนมากอยู่แล้ว เสิ่นเล่อกำลังวางแผนในตัวของหวางเยนหรันอยู่
เรื่องแบบนี้แม้แต่ในครอบครัวคนธรรมดาทั่วไป ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถยอมรับได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลที่ให้ความสำคัญกับหน้าตาอย่างตระกูลหวาง
“คนแซ่มู่ นี่แกกล้าใส่ร้ายฉันเหรอ แกไอ้คนไร้ประโยชน์ที่กำลังจะติดคุก ยังจะกล้าสาดน้ำโคลนใส่ฉันอีก”
“ฮึ ดูสิว่าผมใส่ร้ายคุณหรือเปล่า”
มู่หยุนพูดไป ก็เปิดคลิปวีดีโอที่ถ่ายเอาไว้ก่อนหน้านั้นต่อหน้าทุกคน
“คนแซ่เสิ่นกับพี่ต่งหารือกันแล้ว มอมเหล้าแม่สาวคนนั้นให้เมา พวกเขาขึ้นก่อน เราค่อยตามไปชิมทีหลัง”
“พี่ต่งมีน้ำขี้ลืม ขอแค่ผสมกับเหล้า ก็จะทำให้แม่สาวน้อยคนนั้นสูญเสียความทรงจำ แล้วเราจะจัดการอย่างไรก็ได้ เขายังเตรียมของเล่นบนเตียงเอาไว้ไม่น้อย เมื่อก่อนเราทำเรื่องแบบนี้กันบ่อย...”
บรรยากาศในห้องโถงเป็นไปตามคลิปวิดีโอ เปลี่ยนไปเป็นความแปลกประหลาดขึ้นมา
หวางเยนหรันมองไปที่เสิ่นเล่อด้วยความโกรธ: “พี่เขย เสียแรงที่ฉันเชื่อใจพี่มาก พี่กลับร่วมมือกับคนนอก..คิดทำร้ายฉัน”
หวางตงเหอก็ขมวดคิ้วขึ้นมา: “เสิ่นเล่อ แกทำแบบนี้แกสู้หน้าหวางหรงได้เหรอ?”
สีหน้าของเสิ่นเล่อซีดขาวขึ้นมาทันที จากคลิปวิดีโอจะเห็นว่าต่งเลี่ยงและบอดี้การ์ดของเขาถูกมัดเอาไว้โดยตรง คุกเข่าอยู่บนพื้น บริเวณโดยรอบยังมีบอดี้การ์ดที่ถืออาวุธอยู่ไม่น้อย
มู่หยุนไอ้หมอนี่ทำอะไรลงไปกันแน่! เขาไปหาคนมาจากไหนกัน?
เสิ่นเล่อหลบซ่อนสายตา จู่ๆก็คิดขึ้นมาได้ พูดขึ้นมาด้วยความโกรธ: “ดีล่ะ แกไอ้คนแซ่มู่ งานการไม่ทำ ยังไปอยู่กับไอ้พวกต่ำช้าไร้อนาคตพวกนั้นอีก พวกเขาเป็นคนแบบไหนแกไม่รู้เหรอ? คลิปวีดีโอนี้ต้องได้มาเพราะการทรมานของแก บังคับให้เขาใส่ร้ายฉันแน่”
เสิ่นเล่อยิ่งพูดก็ยิ่งมีความมั่นใจ ดึงหวางเสี้ยงตงเอาไว้: “คุณปู่ คุณปู่ต้องเชื่อผมนะ”
มู่หยุนหัวเราะเยาะเก็บโทรศัพท์มือถือกลับเข้าไปในกระเป๋า พูดกับหวางเสี้ยงตงว่า: “คุณปู่ เป็นการจัดฉากหรือเปล่า แค่ลองคิดดูอย่างรอบคอบก็จะเข้าใจ และเกิดอะไรขึ้นกับเยนหรันในงานเลี้ยงนั่น ในใจเยนหรันต้องรู้ดีอยู่แล้ว”
“พี่เขย บนโต๊ะเหล้าพี่ก็เกลี้ยกล่อมให้ฉันดื่มเหล้าไม่หยุด ฉันคิดมาตลอดว่าพี่ทำเพื่อธุรกิจของตระกูลหวาง คิดไม่ถึงจะเลวทรามต่ำช้าน่ารังเกียจแบบนี้!” หวางเยนหรันพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน(ด้วยความเกลียดชัง) ในใจนึกกลัวขึ้นมาภายหลัง ถ้าหากมู่หยุนมาไม่ทันการณ์ ไม่กล้าจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาจริงๆ!
เสิ่นเล่อถูกว่าจนสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวสักพักก็เปลี่ยนเป็นสีขาว พูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองไปทางหวางเสี้ยงตงอย่างขอความช่วยเหลือ
“คุณปู่ ขอความเป็นธรรมให้กับเยนหรันด้วย” หวางเยนหรันก็มองไปทางหวางเสี้ยงตงอย่างตั้งหน้าตั้งตา
เวลานี้ แม้แต่หวางเยนหรันก็ยังพูดแบบนี้ โดยพื้นฐานก็ยืนยันถึงแผนชั่วของเสิ่นเล่อแล้ว
เวลานี้ หวางเสี้ยงตงจ้องเสิ่นเล่ออย่างไม่วางตาครู่หนึ่ง กระแอมในลำคอ พูดให้จบเรื่องทุกอย่างในประโยคเดียว: “คำพูดของบอดี้การ์ดคนหนึ่งจะเชื่อได้อย่างง่ายดายได้อย่างไรกัน สงสัยในตัวของเล่อเล่อ นอกจากนั้นคำพูดปากเปล่าก็ไม่มีหลักฐาน หรือแค่หาคนหนึ่งคนมาตามใจชอบ ก็จะให้ฉันเชื่อ จากนั้นก็ไปลงโทษคนในตระกูล? เหลวไหลมากจริงๆ”
“ยังมีเยนหรัน ในเมื่อเธอเป็นเลขา เข้าร่วมสภาพแวดล้อมแบบนี้ ดื่มเหล้าไม่ใช่เรื่องที่ปกติเหรอ อย่าไปคิดฟุ้งซ่านอะไรให้มากความ ตั้งใจทำงานให้ดี!”
“คุณปู่ทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน!” หวางเยนหรันมองดูหวางเสี้ยงตงด้วยความผิดหวัง นี่ยังเป็นคุณปู่คนเดิมที่รักและทะนุถนอมเธออยู่เหรอ?
เสิ่นเล่อยิ้มออกมาอย่างได้ใจ: “ใช่ คนคนนั้นถูกมัดเอาไว้ ไม่ใช่ว่าต้องการจะให้เขาพูดอะไรก็ย่อมได้อเหรอ คนแซ่มู่ คิดถึงตัวเองก่อนเถอะ อีกสักพักจะให้คำอธิบายกับตระกูลต่งอย่างไร”
หวังเชาก็ช่วยถากถางอยู่ด้านข้าง: “คนแซ่มู่ แกคงจะไม่ได้ไร้เดียงสาจนคิดว่าแค่นี้ก็สามารถทำให้คุณปู่ลงโทษพี่เขยได้หรอกนะ อย่าว่าแต่พี่เขยไม่ได้ทำอะไรเลย ถึงแม้จะทำแล้ว แกจะทำอะไรได้ แกมันก็แค่คนไร้ประโยชน์ที่แต่งงานเข้าบ้านผู้หญิง ในตระกูลหวาง แกไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น! ได้ยินไหม”
มู่หยุนทำหน้ามืดครึ้มนิ่งเงียบไม่พูดอะไร แม้ว่าจะมีหลักฐานแน่นหนาขนาดนี้แล้ว หวางเสี้ยงตงก็ยังไม่เชื่อ แม้แต่เขาก็จนปัญญาแล้ว
ยังมีความเป็นไปได้อีกอย่าง เดิมทีหวางเสี้ยงตงก็รู้อยู่แล้ว แต่เพื่อปกป้องเสิ่นเล่อเอาไว้ พูดออกมาโดยไม่สนใจผิดชอบชั่วดี อย่างไรเสีย เสิ่นเล่อก็เป็นลูกเขยที่เขาภูมิใจมากที่สุด และตัวเอง ก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ที่แต่งงานเข้าบ้านผู้หญิง
เวลานี้ คนรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ ปากตะโกนบอกว่า: “คุณท่านคุณท่าน แย่แล้ว”
“ประธานกรรมการของบริษัทต่งซื่อต่งเส้ากาง พาคนมาด้วยตัวเอง บอกว่าจะหาคุณมู่ของบ้านเรา”
ข้าคือจักรพรรดิเซียน