จอมมารอ้างสิทธิ์รัก

บทที่32.ตอนพิเศษ 2...

“คุณปู่คร๊าฟๆ...เอวาอยากเล่นน้ำ แต่แดร็กกลัวว่าจะดูเอวาไม่ไหว คุณแม่กับแด๊ดยังไม่ตื่นคร๊าฟ คุณปู่ไปดูแดร็กแปบหนึ่งได้ไหมคร๊าฟ” พาสกรในวัยหกขวบส่งเสียงเจื้อยแจ้วนำมาก่อนล่วงหน้า ตั้งแต่ยังไม่ทันเห็นตัว

“ว่ายังไงละ ตัวแสบอ้อนจะเอาอะไรอีก แล้วทิ้งน้องไว้ไหนกันละ” เดวิดถามเมื่อหลานชายปรากฏตัวให้เห็น

“เอวาอยากเล่นน้ำทะเลนะคร๊าฟ แต่แดร็กจับน้องไม่ไหว กลัวน้องจม พี่สำเรียงเลยให้แดร็กมาตามผู้ใหญ่ไปดูด้วยคร๊าฟ ”เด็กชายจีบปากจีบคอพูดคำพูดบอกกับคุณปู่ผู้สูงวัย

“อ๋อ... เอวาจะเล่นน้ำ แล้วพ่อกับแม่เราไปไหนหมดละ เราถึงอยู่กับสำเรียง”

“แดร็กไปดูที่ห้องนอน แล้วประตูปิดเคาะเรียกก็ไม่ยอมเปิด สงสัยแด๊ดกับแม่ยังหลับอยู่แดร็กก็เลยมาหาคุณปู่คร๊าฟ”

“ไปๆ พ่อกับแม่เราสงสัยยังไม่ตื่นจริงๆ ลูกไปเคาะก็ยังไม่ตื่น ไปปู่พาไปเล่นน้ำเอง”

“เย้...เล่นน้ำเล่นน้ำ” แดร็กหรือน้องบาสกระโดดจนตัวลอยเมื่อคุณปู่รับคำ

“นี่ไม่ใช่เอาน้องมาอ้างนะว่าน้องอยากเล่น เราเองก็คงอยากลงเล่นเหมือนกันใช่ไหมละ” เดวิดยกมือขึ้นขยี้ผมนุ่มบนศรีษะหลานชายอย่างมั่นเขี้ยว

“ป่าวนะคร๊าฟ แดร็กตามใจเอวาเฉยๆ เอวาอยากเล่นแดร็กก็ไม่ว่าอะไร” แดร็กหรือน้องบาสหันมาแก้ความเข้าใจผิดของคุณปู่ เดวิดจึงอดอมยิ้มไม่ได้ ขบวนการปากแข็งนี่ถ่ายทอดออกมาตามสายเลือด ตั้งแต่เขาเอง โดมินิคสืบทอดมายังเด็กน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้า ถ้าไม่จวนตัวจริงๆ ไม่มีทางยอมรับ

“ไงชวนกันไปซนที่ไหนอีกละ แล้วน้องไปไหน ทำไมเราถึงมาอยู่ตรงนี้ พ่อกับแม่ตื่นหรือยัง เมื่อคืนมาถึงเอาซะดึกเชียว” แพรไหมถามเมื่อออกมาเจอแดร็กหรือน้องบาสอยู่กับเดวิดเพียงคนเดียว

“เอวาอยู่กับพี่สำเรียงคร๊าฟ แต่แดร็กไม่ได้ชวนคุณปู่ไปซนนะคราฟ แดร็กชวนคุณปู่ไปเล่นน้ำต่างหากแล้วคุณปู่ก็ตกลงแล้วด้วยคร๊าฟ”

“เล่นน้ำกันแต่เช้าเลยหรือ อากาศมันยังเย็นๆ อยู่ไม่กลัวหนาวหรือยังไง”

“ไม่หนาวคร๊าฟแดร็กลองเอานิ้วจุ่มแล้วน้ำอุ่นๆ”

“แล้วกินอาหารเช้ากันแล้วหรือ ถึงได้จะไปเล่นน้ำกันแล้ว”

“กินเรียบร้อยแล้วคร๊าฟ พี่สำเรียงหาให้แดร็กกับเอวากินแล้วคร๊าฟ”

“พี่แดร็กทำไมนานจัง แค่ให้มาตามคุณปู่ เอวารอจนจะลงน้ำกับพี่สำเรียงก่อนแล้วเนี้ย” เด็กน้อยวัย สี่ขวบวิ่งตุบตับเข้ามา สองแก้มแดงก่ำเพราะออกกำลังจนเหนื่อย

“คุณย่าค่า ไปเล่นน้ำกับเอวานะค่า น้ำอุ่นๆ เอวาลองจุ่มนิ้วดูแล้ว ไปพี่แดร็กเอวารอไม่ไหวเลยต้องมาตามเอง”

“เห็นไหมแดร็กบอกแล้วว่าเอวาอยากเล่น คุณปู่ก็ไม่เชื่อ”

“จ้ะ... ปู่เชื่อแล้วไปๆ กันเดี๋ยวสายแดดจะร้อน” เดวิดพูดชวนหลายชายเมื่อแสงแดดเริ่มจะร้อนแรงขึ้นทุกขณะ

“คุณย่าไปด้วยกันไหมคร๊าฟ” แดร็กหรือน้องบาสหันมาถามแพรไหมผู้เป็นย่าอีกครั้ง

“ไม่หรอกจ้ะ ...ย่าจะเตรียมขนมไว้ให้เวลาเรากับเอวา เวลาที่เลิกเล่นน้ำดีกว่า ขึ้นมาจะได้มีของกิน”แพรไหมพูดกับหลานชายอย่างเอ็นดู

เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นเมื่อเด็กๆ ได้ลงเล่นน้ำสมความตั้งใจ จนวราพิชชาที่อยู่ในห้วงนิทราถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมา ดวงตาหวานกะพริบไปมาเมื่อความรู้สึกมาจนครบจึงขยับหันมองข้างๆ กาย มือหนาวางพาดเอวบางอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ เสียงครางอืออาลอดออกมาจากปากคม

“ขออีกห้านาทีนะ ไม่ไหว ผมปวดหัวไปหมด” โดมินิคกระชับอ้อมแขนดึงร่างบอบบางของวราพิชชาเข้ามาให้แน่นขึ้น

“ปล่อยก่อนค่ะ... วราจะไปดูลูก ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดๆ อยู่ด้านล่าง สงสัยคงอยากจะเล่นน้ำ ไม่รู้ว่ามีใครดูอยู่หรือเปล่า จอมซนสองคนสำเรียงคนเดียวเดี๋ยวรับมือไม่ไหวหรอกค่ะ”

“ผมไปด้วย ผมขอล้างหน้าล้างตาก่อนนะ วราละล้างหน้าล้างตาหรือยัง”

“ยังค่ะ... วราก็เพิ่งตื่นเหมือนกัน ไปค่ะเดี๋ยวลูกรอนาน” สองคนชวนกันเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาเตรียมไปเล่นน้ำกับลูกๆ โดมินิคลอบมอง วราพิชชาอย่างพิจารณาขนาดลูกสองคนแล้ว

วราพิชชายังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง มีแต่จะยิ่งทวีความงดงามขึ้นทุกๆ วัน วราพิชชาหันมามองเมื่อรู้สึกว่ามีสายตาจ้องมอง จึงหันกลับมาก็พบกับสายตาคมวาวที่มองมา นัยน์ตาแวววาวเต้นระยิบระยับจนใจวราพิชชาเต้นรัว จึงขยับกายหันหลังให้ด้วยความเขินอาย

“คุณโดม... มองอะไรคะ วราเพิ่งตื่นหน้าตาดูไม่ได้เลย ขอวราล้างหน้าแปบหนึ่งก่อนนะคะ”

“หึหึ....” โดมินิคอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ดูสิอยู่ด้วยกันมาจนลูกโต วราพิชชายังไม่หายจากการเขินอายเมื่อเขาจ้องมองสักที มือแกร่งเอื้อมไปฉุดดึงกายสาวตรงหน้าเข้ามาหา และสวมกอดจนเต็มแขนแกร่งมือไม้ขยับอย่างรู้งาน พักเดียวก็ปลดทุกสิ่งที่ห่อหุ้มร่างบางตรงหน้าจนหมด วราพิชชายกมือขึ้นโอบกอดกายแกร่งเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ล้มลงไปกองที่พื้น แข้งขาอ่อนปวกเปียกเหมือนหมดกำลังจนต้องอาศัยร่างสูงตรงหน้าเป็นที่พักพิง แขนแกร่งช้อนอุ้มร่างบางวางบนอ่างล้างหน้า แทรกกายตรงกลาง เขสก้มลงจุมพิตปากอิ่มอย่างหลงใหล เลื่อนใบหน้าลงไปที่ลำคอบางดูดเม้มทิ้งรอยจารึกไว้เป็นระยะ มือแกร่งโอบประคองสองเต้าตูมเต่งไว้ในอุ้งมือ บีบเค้นจนร่างสาวบิดเป็นเกลียว ขยับมือไม้ตามท่วงทำนวง ปากร้อนชื้นอ้างับเมื่อถึงจุดหมายดูดเม้มปลายยอดที่หดเกร็งอย่างปลุกเร้า เสียงหวานครางออกมาอย่างแผ่วเบา ยกมือขึ้นบีบแขนแกร่งและกำจนแน่น โดมินิคแทรกกายเข้าไปในที่ทางที่ต้องเป็น ขยับตัวแผ่วเบา ก่อนจะเร่งเร้าเมื่อเริ่มร้อนแรงตามอารมณ์ จังหวะหวานแผ่วเบาเรียบเรื่อย ก่อนจะแรงเร็วขึ้น เอวสอบเคลื่อนไหวเร็วและแรงขึ้น มือใหญ่จับเอวบางที่เริ่มจะอวบขึ้นหลังจากคลอดบุตรคนที่สองดึงเข้าหาตัวตน และโหมแรงที่มีทั้งหมดเข้าใส่ จนวราพิชชาหลุดเสียงครวญครางออกมาแผ่วเบา มือน้อยๆ กำแขนแกร่งจนแน่นจิกเล็บลงไปบนผิวเนื้อของโดมินิคเพื่อผ่อนคลายความเสียวซ่านบาดลึกที่โดมินิคบรรจงมอบให้ กายใหญ่ขยับเขยื้อนเร็วขึ้น จนเหงื่อพากันหลั่งไหลชะโลมกายจนชุ่มโชก เสียงครวญครางของวราพิชชายังดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างพอใจในรสสัมผัสอันแสนลึกซึ้ง และจับจูงกันทะยานขึ้นไปในห้วงเสน่ห์หา ก่อนจะจูงมือกันเยี่ยมชมวิมานแห่งความสุข ล่องลอยเหมือนว่าวที่ติดลมไม่อยากลงมา ตาคมมองดวงตาหวานตรงหน้าหลังจากจบความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนลง ดวงตาคมเจือไปด้วยไอรักฉ่ำเยิ้มจนแทบจะหยาดหยด

วราพิชชายกมือบางขึ้นทุบอกแกร่งตรงหน้า โดมินิคมักแสดงออกถึงความรัก นับตั้งแต่แต่งงานกันมาไม่เคยขาด ถ้าไม่ควบคุมไว้ เอวาและแดร็กคงมีน้องๆ ตามออกมาเป็นพรวน

วราพิชชาและโดมินิคมักจะหาเวลาพาทุกคนไปเที่ยวทั้งครอบครัว ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวโดโนแวนดีขึ้นเมื่อทุกคนหันหน้าเข้าหากัน และมักจะนัดมาเที่ยวพักผ่อนด้วยกันเป็นประจำ ทำให้เรื่องราวที่บาดหมางกันมา จางหายไป อีกทั้งนิสากับเจรามี่ตกลงปลงใจแต่งงานกันความสัมพันธ์เลยแนบแน่นขึ้น คู่ปรับที่ไม่น่าจะลงรอยกัน เปลี่ยนเป็นคู่รักที่หวานหยดเสียจนทุกๆคนแอบอิจฉา

จบบริบูรณ์


จอมมารอ้างสิทธิ์รัก
คุณสามารถใช้ปุ่มลูกศรซ้าย/ขวาเพื่อถอยหลัง/ไปข้างหน้า
ประเมิน: 10.0/10 จาก 11 โพล
loading...