คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน
ตอนที่ 5 ถูกบังคับให้ต้องทน
ได้ยินเช่นนั้นหูของนัชชาก็ดงก่ำทันทีเธอตอบด้วยเสียงต่ำเหมือนยุงบิน“อือ”
“สามีนอกใจเลยจะแก้แค้นด้วยการเอาสมบัติของเขา?” เขายังคงถามต่อ
นัชชาไม่รู้ว่าทำไมไม่มีความมั่นใจแล้ว“อือ”
“เขาไม่เคยแตะต้องตัวเธอเลยงั้นเหรอ ? ”
เธอตอบด้วยจิตใต้สำนึก“อือ!”
หลังจากตอบเสร็จชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ลุกขึ้นมาทันที ก่อนที่นัชชาจะรู้ตัวเจ้าของร่างสูงโปร่งคนนั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เขาใช้ปลายนิ้วดันปลายคางเธอขึ้นมา เธอรู้เรื่องที่เตนัทลอว์เฟิร์มของเราทำคดีฟ้องหย่ามาน้อยมากใช่ไหม”
นัชชามองไปที่เขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
“การฟ้องร้องคดีแบบนี้ทนายใหญ่ๆไม่ชอบรับทำกันหรอก ส่วนพวกทนายเล็กๆก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อีกโดยเฉพาะกับกรณีอย่างเธอที่ไม่มีเงินจ่าย มันไม่มีประโยชน์ ดังนั้นมันต้องใช้เงินจำนวนมาก คุณมีเงินไหมล่ะ ?” ประโยคที่เขาพูดมามีพลังมาก แทงเข้าใจดำของนัชชาอย่างจัง
นัชชาขมวดคิ้วแน่น เธอไม่มีเงิน บัตรที่อยู่ในมือก็เป็นบัตรเสริม คาดว่าไม่นานก็จะโดนระงับการใช้งานแล้ว มาคิดดูแล้วเธอก็โง่จริงๆ คิดจะมาฉีกหน้าเขาโดยไม่มีหลักฐานอะไรสักอย่างหรือแม้แต่เงินก็ไม่มี จะให้ไปยืมเงินของจินต์งั้นเหรอ?
เธอไม่มีหน้าไปยืมเขาหรอก ก็รู้อยู่ว่าขอยืมเงินไปก็เหมือนน้ำนิ่งไหลลึกไม่มีปัญญาจะเอามาจ่ายคืนได้ยิ่งนี่เป็นการฟ้องร้องระยะยาว คดีความคงจะต้องใช้เวลามากพอสมควรค่าใช้จ่ายก็มากตามไปด้วย
ตอนนี้ในหัวเธอสับสนวุ่นวายมาก นัชชารู้สึกว่าตัวเองเหมือนปลาที่เกยตื้นนอกจากยอมรับความพ่ายแพ้ก็ไม่มีทางเลือกอะไรให้เธอแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา ดวงตาของเธอค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อยๆ และเริ่มมีน้ำไหลออกมา
เตชิตปล่อยเธอแล้วเขาก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่ามีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ ดอกเดซี่น้อยๆกำลังร้องไห้ นี่เป็นปฏิกิริยาที่เขาไม่คาดคิดทำไมถึงน่าสงสารจับใจแบบนี้
มิน่าวันนั้นเธอถึงได้มีท่าทีกล้าหาญแบบนั้นที่แท้เธอจับได้ว่าสามีของเธอมีคนอื่นนี่เอง
เตชิตรู้สึกใจเย็นอย่างบอกไม่ถูกเขาใช้มือบีบปลายคางของเธอเบาๆ นิ้วโป้งแตะไปที่ริมฝีปากบางๆของเธอ ลูบไล้ริมฝีปากสีชมพูนั้นแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าคืนวันนั้นเขายังไม่ได้จูบเธอ นัยน์ตาเริ่มมืดมนขึ้น “คดีนี้ผมช่วยให้คุณให้ชนะได้นะ คุณต้องการไหม ? ”
ต้องการไหมเหรอ ต้องการสิ
สองคำนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งสำหรับเธอ นัชชารู้สึกริมฝีปากระคายเคืองมาก เธอพยายามจะหันหน้าหนีแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาใสๆมองไปที่เขา “แล้วคุณต้องการอะไร ? ”
เตชิตยกมุมปากขึ้น ยังรู้มากทำมาถามเรื่องข้อแม้เธอไม่ได้โง่อย่างที่เขาคิด
เขาเขยิบเข้ามาใกล้เธอเล็กน้อย ดมกลิ่นหอมอ่อนๆแถวซอกคอขาวเนียนนุ่มของเธอ “ผมต้องการคุณ”
สี่คำพูดที่ออกมาจากปากของเขากับสีหน้าเรียบเฉย
นัชชาได้ยินก็รู้สึกกังวลใจ “คุณเตชิต คำว่าต้องการของคุณหมายถึงอะไร ? ”
เตชิตไม่ตอบแต่ถามกลับว่า “คุณคิดว่าตัวคุณเองมีอะไรให้ผมได้บ้างล่ะ ? ”
เขามีทั้งเงิน มีทั้งอำนาจ ไม่ขาดอะไร อย่าพูดถึงนัชชาเลยเขามีทุกอย่างเหนือดวิษ ที่เธอจะมีให้ก็เพียงแค่ตัวเธอเองเท่านั้น
นัชชาทำสายตาเย็นชา “ข้อเรียกร้องของคุณ ฉันอาจจะตกลงไม่ได้”
ในคืนวันนั้นมันเป็นเพียงข้อผิดพลาด ถ้าตอนนี้ทำต่อมันจะยิ่งผิดไปมากกว่าเดิม
แต่เตชิตไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยเธอไป “ในประสบการณ์ของผม ถึงแม้ว่าคุณจะไปยืมเงินมาทนายดรณ์ก็ไม่รับฟ้องร้องคดีของคุณ การร้องทุกข์ที่ไร้ค่า ทนายของเตนัทลอว์เฟิร์มไม่รับทำคดีหรอก ”
“คุณขู่ฉันเหรอ ? ”
“มันเป็นข้อเท็จจริง”
นัชชามองไปที่ผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆ และทันใดนั้นเธอก็รู้ถึงชะตากรรมของตัวเอง เธอยิ้มเศร้าๆออกมาเพียงเล็กน้อย “คุณเตชิต ฐานะแบบนี้คุณจะต้องการผู้หญิงแบบไหนก็ได้ ทำไมถึงต้องการผู้หญิงที่มีสามีแล้ว ”
ใครจะไปรู้ว่าเตชิตจะยอมรับอย่างสุภาพ “น่าเสียดาย ร่างกายของผม มันตอบสนองแค่ร่างกายของคุณเท่านั้น”
นัชชาตกใจ “แต่ว่าฉันไม่เก่งเรื่องนั้น ”
ประโยคนี้ เป็นเตชิตเองที่พูดให้เธอ แต่ในเวลานี้เธอใช้มันมามัดปากของเขา
เขาหัวเราะอย่างมีเสน่ห์ “ไม่เก่งไม่เป็นไร ผมจะค่อยๆสอนเอง”
ได้ยินประโยคนี้นัชชาถึงกับหน้าแดง ผู้หญิงไม่มีวันเป็นคู่แข่งของผู้ชายในด้านเลวร้ายแบบนั้น
และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอาย “สรุปแล้วคุณต้องการจะทำอะไรกันแน่ ?”
ผู้ชายร่างสูงเดินเข้าไปใกล้เธอมีช่องว่างเพียงเล็กน้อยระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ตัวของเขามีกลิ่นต้นสนจางๆ เขาก้มลงไปข้างหูของเธอพูดไปคำเดียว
ฟังเสร็จหน้าของนัชชาก็ยิ่งแดงลามลงไปถึงต้นคอ อดไม่ได้ที่จะพูดหยาบคายขึ้นมา ยกมือขึ้นไปตีที่หน้าเขา “คุณนี่มันทะลึ่ง !”
เตชิตรีบจับมือเล็กๆของเธอไปเก็บไว้ข้างหลังและบังคับให้เธอหันตัวแล้วเปิดประตูบานหนึ่งที่อยู่ข้างๆ เขาผลักเธอเข้าไป นัชชามองไปรอบห้องมันเป็นห้องขนาดใหญ่ที่เอาไว้สำหรับพักผ่อน
เธอเดินถอยหลังเข้ามุม สองมือปกปิดไว้ที่หน้าอก “เตชิต ใจเย็นๆค่ะ ”
เตชิตถอดเนคไทด์ออกจากคอแล้ววางพาดไว้บนโต๊ะ ถอดเสื้อสูทที่พอดีตัวแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า เสื้อเชิ้ตสีขาวคริสตัลก็ถูกถอดออก การกระทำดังกล่าวเต็มไปด้วยฮอร์โมนเพศชายที่พุ่งออกมาและการเต้นแรงของหัวใจ
นัชชายังไม่มีเวลาที่จะชื่นชมดูการเคลื่อนไหวดังกล่าวเธอก็รู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที เธอกระชับเสื้อผ้าของเธอด้วยความกลัว “คุณ คุณเป็นทนายและนี่คือบริษัทของคุณ ถ้าคุณทำอะไรแบบนั้น ฉันจะเรียกให้คนเข้ามานะ !”
เตชิตหัวเราะเยาะกับคำขู่ของเธอ “คุณตะโกนไปเถอะให้คอแตกไปเลย เพราะที่นี่กันเสียงหรือว่าเสียงของคุณจะดังกว่าประตูหนาๆนั่นละ”
ระหว่างการสนทนาเตชิตก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ จับหน้าของเธอเบาๆแล้วยกขึ้น วันนี้เธอแต่งหน้าบางๆแบบธรรมชาติ ดูสวยขึ้นมาก น่าเสียดายที่วันนี้ปากของเธอทาลิปสติกมาด้วย ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสัมผัสของลิปสติกเท่าไหร่
เตชิตจึงไม่ได้จูบเธอ เขาเอื้อมมือไปดึงเสื้อเชิ้ตของเธอออก ตอนนี้กระดุมบนเสื้อหลุดออกไปหมดแล้ว นัชชาตกใจรีบเอามือไปปิดบังไว้ แต่ก็ถูกเขาปัดมืออกอย่างง่ายดาย
นัชชาบิดตัวหนีไปมา “คุณเตชิต ฉันยังไม่ได้หย่ากับสามี คุณทำแบบนี้มันผิดศีลธรรมเกินไป ”
“เพียงแค่คุณอยู่กับผม ผมจะช่วยคุณเรื่องหย่าเอง ” เตชิตลูบไล้ไปที่ผิวเนียนๆ ของเธอ ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องไปที่เธออย่างไม่ละสายตา “ผมสามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้ ผมสามารถทำลายชื่อเสียงของสามีเก่าคุณได้ด้วยเช่นกัน”
นัชชาเงียบไปสักพักเธอนึกถึงดวิษ แต่เมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอเจ็บปวดใจมากเช่นกัน เธอไม่เคยคิดว่ามันจะมีวันนี้ วันที่เธอต้องมายุ่งกับชายคนอื่นเพื่อต่อสู้กับดวิษสามีที่เธอรัก
สีหน้าโศกเศร้าของผู้หญิงทำให้เตชิตไม่สบายใจ ดูเหมือนว่านัชชาจะรักสามีเก่าของเธอมาก
ไม่มีการเล้าโลมใดๆทั้งนั้นเขาก็บุกเข้าร่างกายของเธอมาทันที นัชชายังไม่พร้อมที่จะให้เขาทำอะไรกับเธอดังนั้นเธอเลยร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด เธอมองเขาด้วยความตกใจและพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้ เหมือนกับลูกแมวตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ
ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ละ ?
การที่รักใครสักคนจนให้ไปหมดหัวใจแต่สุดท้ายทำไมเธอถึงกลายเป็นคนที่โดนทำร้ายเสียเอง
เส้นทางเดินต่อจากนี้ เธอจะไปต่อไปยังไง ?
นัชชารู้สึกสิ้นหวังลงเรื่อยๆ ชีวิตของเธอที่พึ่งเริ่มตอนนี้มันถึงจุดจบแล้ว ทางเดียวที่เธอจะเอื้อมมือไปถึงเป้าหมายได้ตอนนี้ก็คือปีศาจที่อยู่ตรงหน้าของเธอ
เตชิตกำลังเพลินอยู่กับร่างกายของนัชชาเขาไม่มีความต้องการทางร่างกายมาหลายปี และสุดท้ายตอนที่เขาปล่อยตัวให้เป็นไปตามธรรมชาติก็พ่นของเหลวสีขาวขุ่นสัมผัสอุ่นๆเรียกสติกลับมา
เขาเงยหน้าขึ้นมาใบหน้าของผู้หญิงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เธอหลับตาลงขนตาโค้งงอนของเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ยังมีน้ำตาไหลลงมาจากตาของเธออยู่เรื่อยๆ
ร้องไห้งั้นเหรอ ?
เตชิตปล่อยมือออก เขาหยิบกระดาษทิชชู่มาทำความสะอาดตัวเอง นัชชารู้สึกสูญเสียทุกสิ่งจนค่อยๆทิ้งตัวลงตามผนังและนั่งลงบนพื้น สองมือทิ้งวางไว้ที่เข่าและร้องไห้ออกมา
“ลุกขึ้น ! ”
เสียงเย็นชาของผู้ชายคนนั้นไม่ได้แฝงด้วยความใคร่ใดๆ มันแตกต่างกับเสียงที่เซ็กซี่น่าฟังในเมื่อกี้มาก
นัชชาเหมือนไม่ได้ยิน เอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น
เตชิตมักจะไม่มีความอดทนกับน้ำตาของผู้หญิงมากนัก เวลานี้เขารู้สึกหงุดหงิดเมื่อมองไปที่เธอ แต่ความรำคาญยังมีอะไรบางอย่างอยู่ เขาไม่สามารถพูดออกมาได้
“นัชชา ลุกขึ้น ” เขาเรียกชื่อของเธอ
คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน