Hello!! My Cinderella นางซินหน้าใสขอเขย่าหัวใจคุณชายเพลย์บอย
Chapter 53 : สุดท้ายคนที่ฉันรัก...ใจร้ายที่สุด
“จบไปแล้วนะคะสำหรับการแสดงโชว์เครื่องเพชรชั้นเยี่ยมของเราในวันนี้ค่ะแขกผู้มีเกียรติคะ” ดาราหญิงคนหนึ่งซึ่งวันนี้เธอมารับหน้าที่เป็นพิธีกรของงานเดินมาหยุดอยู่ไม่ไกลจากฉันสักเท่าไหร่พูดขึ้น “นางแบบนายแบบของเราวันนี้สวยหล่อทุกคนเลยนะคะ โดยเฉพาะชุดฟินาเร่ของเรา และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาพูดคุยกับเจ้าของงานนี้กันค่ะ”
เสียงพูดคุยกันของเหล่าไฮโซที่กำลังมองมายังฉันด้วยสายตาชื่นชม ไม่รู้ว่าชมเครื่องประดับบนตัวฉันหรือตัวฉันกันฉันก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้สติฉันกำลังถูกเขย่าอย่างรุนแรงด้วยเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินสวย แม้ว่าฉันจะไม่ได้หันไปมองคุณดีแซมตรง ๆ แต่ฉันก็รับรู้รังสีอำมหิตนั้นด้วยสัญชาตญาณ
ถ้าคิดอีกแง่หนึ่งแล้วคุณดีแซมไม่มีสิทธิ์มาโกรธฉันเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมฉันต้องไปกลัวเขาด้วยนะ แค่ฉันมาทำงานโดยไม่บอกเขาทำไมเขาต้องโกรธขนาดนี้ด้วย...
ตามที่ซ้อมคิวกันเมื่อวานฉันต้องยืนอยู่ตรงนี้จนกว่าเจ้าของงานจะออกมาและพูดคุยกับแขกที่มาในงานเกี่ยวกับเครื่องเพชรที่ฉันกำลังสวมอยู่ โดยระหว่างนั้นฉันก็ต้องปั้นหน้ายิ้มที่คิดว่าสวยที่สุดต่อไป
“ขอเชิญคุณหญิงขวัญตา สิริเจริญกุลขึ้นมาบนเวทีด้วยค่ะ”
สิ้นเสียงของพิธีกร ม่านด้านหลังเวทีก็เปิดออก คุณหญิงขวัญตาเดินออกมายังด้านหน้าเวทีด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานท่ามกลางเสียงปรมมือ เธอคือคนๆเดียวกับคุณหญิงที่ฉันเจอหลังเวที...แต่เหมือนเป็นคนละคนกันเพราะรอยยิ้มที่กำลังประดับบนใบหน้าสวยนั้น
“และงานนี้จะขาดคนสำคัญของเราไปไม่ได้ค่ะ ขอเชิญคุณแซนแทน หรือคุณแทนคุณ สิริเจริญกุล ลูกชายคนเล็กของคุณหญิงขวัญตา ซึ่งเป็นผู้ออกแบบเครื่องเพชรทั้งหมดในงานวันนี้ค่ะ”
หัวใจฉันเต้นโครมครามเพราะชื่อของคนๆนั้น คุณแซนแทนที่ฉันสงสัยนักหนาว่าเขาคือใคร...
ฉันหันไปมองยังม่านด้านหลังอย่างไม่อาจทนรอดูได้อีกต่อไป และทันทีที่ม่านเปิดออก รอยยิ้มของฉันก็จางหายไปทันที
ร่างสูงเดินออกมาพร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงช่อโต แทน...ไม่สิ คุณแซนแทนเดินออกมาด้วยรอยยิ้มชนิดที่ใครเห็นแล้วเป็นอันต้องลมหายใจสะดุด ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ กัน เขายื่นช่อกุหลาบสีแดงมาตรงหน้าฉัน
ความรู้สึกของฉันตอนนี้เหมือนถูกคุณแซนแทนตบหน้าก็ไม่ปาน คนที่ฉันไว้ใจ คนที่ฉันเชื่อใจว่าเขาสามารถเป็นคนที่จะคอยอยู่ข้างๆกันในวันที่ฉันอ่อนแอ สุดท้าย...กลับโกหกกันได้อย่างเจ็บแสบ
เด็กวัดที่ชื่อแทน เขาเป็นคนดี ยิ้มเก่ง เอาใจเก่ง เป็นคนที่เข้าใจฉันเพราะเราต่างก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน...ไม่มีจริงอยู่บนโลกใบนี้
ฉันเอาแต่จ้องหน้าคุณแซนแทนอยู่แบบนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ฉันเสียใจและอยากร้องไห้...
“รับไปสิครับมะลิ” คุณแซนแทนก้มหน้าลงมากระซิบนั่นทำให้สติฉันกลับเข้าร่าง
ฉันรับช่อดอกไม้มาถือไว้แต่โดยดีพร้อมกับปั้นยิ้มอีกครั้งถึงแม้ว่ามันจะเจื่อนและจืดมากก็ตามที คุณแซนแทนทำให้ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังทำงานให้เขา และฉันต้องทำตามหน้าที่
The show must go on…
“ดิฉันต้องขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกคนที่มาในงานแสนพิเศษของลูกชายดิฉันนะคะ” คุณหญิงขวัญตาเริ่มพูดแล้ว แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกว่าสายตาที่เธอมองมาที่ฉันกับคุณแซนแทนกลับมีเลศนัยยังไงไม่รู้ “และวันนี้ดิฉันถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งเพราะดิฉันจะถือโอกาสประกาศข่าวดีให้กับทุกคนในที่นี้ได้รับรู้ข่าวดี”
แขกทุกคนต่างก็นั่งตั้งหน้าตั้งตารอฟังข่าวดีจากปากคุณหญิงขวัญตา เธอหันมามองหน้าฉันสลับกับคุณแซนแทนอีกครั้งก่อนจะประกาศสิ่งที่ทำให้คุณแซนแทนถึงกับทำหน้าเครียด
“ข่าวดีที่ว่าก็คือแซนแทนลูกชายคนเล็กของดิฉันจะมีงานหมั้นกับหนูไพลิน ลูกสาวคนเดียวของท่านรัฐมนตรีเดือนหน้าค่ะ”
“อะไรนะ!” คุณแซนแทนโพล่งขึ้นเสียงดังอย่างตกใจเหมือนกับว่าเขาเองก็เพิ่งจะทราบเรื่องนี้ ณ วินาทีนี้เหมือนกับคนอื่น ๆ
ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณหญิงถึงไม่ชอบฉันตั้งแต่ยังไม่ทันได้รู้จักกันเลย ไม่สิ ไม่แน่ว่าเธออาจจะรู้จักฉันแล้วก็เป็นได้ และคนที่ลูกชายเธอถูกใจกลับไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อไพลินอะไรนั่นแต่กลับเป็นแค่ผู้หญิงจนๆคนหนึ่งเท่านั้น ที่เธอประกาศเรื่องงานหมั้นของคุณแซนแทนต่อหน้าฉันแบบนี้ เธอคงจะคิดว่าฉันชอบพอกับคุณแซนแทน อยากให้ฉันผิดหวังและหนีจากลูกชายของเธอไป...เหมือนละครน้ำเน่าไม่มีผิดเพี้ยน
คุณแซนแทนแย่งไมค์จากแม่ตัวเองมาก่อนจะประกาศเสียงหนักแน่นให้ทุกคนในที่นี้ได้รู้กันอย่างทั่วถึง
“จะไม่มีงานหมั้นหมายอะไรทั้งนั้นระหว่างผมกับน้องไพลิน เรารักแบบพี่น้อง ส่วนผู้หญิงที่ผมจะแต่งงานด้วยคงมีแค่ผู้หญิงคนนี้คนเดียวเท่านั้น” ไม่ว่าเปล่าคุณแซนแทนก็เอื้อมมือมาโอบเอวฉันเข้าหาตัวเองแน่นจนฉันเองยังตกใจ
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าระหว่างเขากับแม่ของเขาจะมีสงครามประสาทอะไรมาก่อนหน้านี้มั้ย ถึงฉันจะเป็นแค่ผู้หญิงจน ๆ ธรรมดาคนหนึ่ง แต่ฉันไม่ใช่ตัวตลกให้ใครมาเล่นกับความรู้สึกของฉันแบบนี้นะ
ฉันผลักคุณแซนแทนออกห่างแล้วรีบวิ่งกลับไปทางด้านหลังของเวทีทันที ไม่สนว่าเขาจะตะโกนเรียกชื่อตามหลังมาเสียงดังยังไง เขาคือคุณแซนแทน เขาไม่ใช่แทนที่ฉันรู้จัก
ฉันถอดรองเท้าและสร้อยเพชรพร้อมกับช่อดอกไม้ยัดใส่มือพี่ซินดี้ที่ยืนคุยกับนางแบบคนหนึ่งอยู่หลังเวที เขามองฉันงง ๆ แต่ไม่ทันได้พูดอะไรฉันก็วิ่งหนีออกมาทางหน้าโรงแรมเพื่อเรียกแทกซี่กลับบ้านซะก่อน
“มะลิ! มะลิ เดี๋ยวสิ!”คุณแซนแทนวิ่งตามฉันออกมาเรียกชื่อฉันเสียงดัง ไม่นานขายาว ๆ ของเขาก็พาร่างสูงใหญ่วิ่งมาดักหน้าฉันไว้ได้ทันตรงลานน้ำพุหน้าโรงแรม
ไม่ว่าฉันจะวิ่งไปทางไหนผู้ชายคนนี้ก็จะเดินไปขวางทางฉันเอาไว้ไม่ให้ฉันหนีเขาไปไหนได้ จนในที่สุด...คนอ่อนแออย่างฉันก็ร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะต้านกับความจริงที่ได้รับรู้วันนี้ ยิ่งฉันมองหน้าเขาฉันก็ยิ่งเสียความรู้สึก
“ฉันไม่มีอะไรให้คุณหรอกค่ะคุณแซนแทน”
“ที่ผมวิ่งตามมะลิมาผมไม่ได้ต้องการอะไรจากมะลินะ” คุณแซนแทนว่า มือหนาเอื้อมมาหวังจะเช็ดน้ำตาให้แต่ฉันก็เดินถอยห่างเขาออกมา
“ทำไมคุณต้องโกหกฉันด้วย ทำไมคะ” น้ำตาฉันไหลนองเต็มหน้าอย่างไม่อาจกักกั้น นัยน์ตาคมของคนตรงหน้าสั่นระริกด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน
“ผม...ผมไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่ผมทำไปผมมีเจตนาดีนะครับมะลิ”
“...”
“ผมขอโทษกับทุกอย่างที่ผมทำให้มะลิผิดหวัง เสียใจ แต่ผมอยากให้มะลิรู้ว่าผมคือแทน แทนคนที่ไม่เคยทิ้งมะลิไปไหนคนเดิมนะ”
“ไม่จริงหรอกค่ะ แทนไม่เคยโกหกฉัน” ฉันพูดเสียงสั่น
“จริงสิครับ เชื่อผมนะมะลิ ทุกอย่างที่ผมทำไปผมมีเหตุผล”
“แล้วแกมีเหตุผลอะไรถึงมายุ่มย่ามกับคนมีเจ้าของกันไอ้แซนแทน”
เสียงนุ่มทุ้มคุ้นหูดังขึ้นไม่ไกลกันนัก ฉันกับคุณแซนแทนหันไปมองเจ้าของเสียงพร้อมกันทันที น้ำเสียงที่เปล่งออกมาถึงแม้จะฟังดูเรียบแต่สิ่งที่แฝงไว้ในน้ำเสียงนั้นไม่ได้เรียบตามน้ำเสียงเลย
คุณดีแซมย่างสามขุมเข้ามาทางฉันกับคุณแซนแทนอย่างช้า ๆ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเรียบซะจนดูน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ไม่นาน...ร่างสูงก็เดินเข้ามากระชากต้นแขนฉันเข้าหาตัวอย่างรุนแรงก่อนจะตวัดแขนรัดรอบเอวฉันไว้แน่นเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
“เหอะ! น่าสมเพชว่ะ มะลิคือผู้หญิงคนเดียวที่แกจะแต่งงานด้วยงั้นเหรอ ถุย!!”
คุณดีแซมถ่มน้ำลายลงพื้นด้วยท่าทีกวน ๆ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเสียมารยาทขนาดนี้เวลาโกรธ ยิ่งฉันพยายามแกะมือเขาออก เขาก็ยิ่งรัดฉันเข้าหาตัวเขาแน่นขึ้นกว่าเดิมจนเราแทบจะรวมร่างเป็นคนๆเดียวกันอยู่แล้ว
“ฉันเจ็บนะคะคุณดีแซม ปล่อยนะ” ฉันบอกพร้อมกับออกแรงดันร่างสูงให้ออกห่างแต่กลับไร้ผล ไม่เพียงแค่นั้น คุณดีแซมกลับไม่แยแสเสียงเรียกร้องของฉันเลยแม้แต่น้อย
“แล้วนายเคยถามมะลิดูสักครั้งมั้ยว่ามะลิอยากมีเจ้าของรึเปล่าดีแซม” คุณแซนแทนกระดุกยิ้มกวน ฉันเห็นด้วยว่าคุณดีแซมแอบหัวคิ้วกระตุก เขาคงจะยัวะอยู่ไม่น้อยเลยเมื่อโดนย้อนมาแบบนี้
ผู้ชายสองคนนี้เหมือนรู้จักกันมาก่อนเลย...
“หึ! ทำมาเป็นรู้ดี แกจะรู้อะไรว่าฉันกับมะลิไปถึงไหนกันแล้ว ใช่มั้ยจ้ะ เมียจ๋า” พอสิ้นเสียงเท่านั้นแหละคุณดีแซมก็หันมาฉวยโอกาสหอมแก้มฉันโชว์คุณแซนแทนอย่างถือวิสาสะ ดวงตาคมกริบเหลือบมองไปยังผู้ชายตรงหน้าอย่างผู้เหนือกว่า
“สิ่งที่นายทำอยู่มันกำลังทำร้ายมะลินะดีแซม ปล่อยมะลิไปซะ” คุณแซนแทนพูดเสียงเครียดนั่นทำให้คุณดีแซมถึงกับหน้านิ่งอีกครั้ง ที่คุณดีแซมนิ่งไปแบบนี้คงเป็นเพราะว่าเขาก็รู้ว่าสิ่งที่คุณแซนแทนกำลังพูดถึงหมายถึงเรื่องอะไร
“...”
“นายกำลังทำลายความสุขของผู้หญิงดี ๆ คนหนึ่ง ถ้าไม่รักแล้วแกจะให้มะลิอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปงั้นเหรอ ปล่อยมะลิไปซะดีแซม”
“อย่ายุ่ง!!” คุณดีแซมตะคอกใส่หน้าคุณแซนแทนเสียงดังสนั่นจนฉันยังตกใจ
“ฉันจะยอมจ่ายเงินห้าหมื่นให้มะลิเองก็ได้เพื่อแลกกับอิสรภาพของเธอ”
“คุณแซนแทน...” ฉันเรียกผู้ชายตรงหน้าเสียงเบาราวกับกระซิบ ฉันอยากจะขอบคุณในน้ำใจของเขาที่มีให้ฉันเสมอมา แต่ฉันไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาทำอยู่เขากำลังโกหกฉันเหมือนอย่างที่เขาโกหกว่าแทนคือเด็กวัดหรือเปล่า
“นี่เธอบอกเรื่องของเราให้คนอื่นรู้หมดเลยงั้นเหรอ” คราวนี้คุณดีแซมหันกลับมาเล่นงานฉันแทน ดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยโทสะจนน่ากลัว มือหนาที่โอบรัดรอบเอวฉันอยู่เลื่อนขึ้นมาบีบต้นแขนฉันทั้งสองข้างยังผลให้ฉันเจ็บร้าวไปทั้งแขน
“คือฉัน...” ความกลัวทำให้ฉันได้แต่พูดกระอึกกระอักทำอะไรไม่ถูก
“ก็ดี! งั้นช่วยบอกให้หมดล่ะว่าฉันจะทำอะไรกับเธอคืนนี้!!” ไม่ว่าเปล่าคุณดีแซมก็ก้มลงแล้วช้อนร่างฉันไว้ในอ้อมแขนแข็งแกร่งพาไปยังลานจอดรถอย่างรวดเร็ว
“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!!” ฉันทั้งดิ้นทั้งกรีดร้อง และนั่นไม่ได้สะทกสะท้านต่อมสำนึกของคนกำลังโกรธเลยแม้แต่น้อย
“ปล่อยมะลิเดี๋ยวนี้นะดีแซม” คุณแซนแทนวิ่งเข้ามาดักหน้าคุณดีแซมไว้ มีหรือที่คุณดีแซมจะยอมหยุดง่าย ๆ เขาเดินกระแทกไหล่คุณแซนแทนจนร่างทั้งร่างเซถลาถอยหลังไปเกือบล้มก่อนจะพาฉันมุ่งหน้ามายังรถแอสตัน มาร์ตินลูกรักของเขาที่จอดอยู่ไม่ไกลแล้ว
คุณดีแซมเปิดประตูรถแล้วโยนฉันเข้าไปในรถก่อนจะปิดประตูตามเสียงดังสนั่น เขาวิ่งอ้อมรถเข้ามานั่งประจำที่แล้วสตาร์ทรถทันที คุณแซนแทนวิ่งเข้ามาดักหน้ารถไว้ขวางไม่ให้คุณดีแซมได้ขับรถหนีไปไหน
“ยุ่งไม่เข้าเรื่องนะไอ้เวรนี่”
และสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นเมื่อคุณดีแซมเหยียบคันเร่งจนมิดหวังจะชนคุณแซนแทนให้ตายไปข้าง!
“กรี๊ดดดดดดดดดดด!!” ฉันกรีดร้องด้วยความตกใจพร้อมกับหลับตาแน่น
วินาทีต่อมา...ไม่มีเสียงดังโครมหรือเสียงรถกระแทกอะไรทั้งสิ้น ฉันลืมตามองผ่านกระจกมองหลังก็เห็นว่าคุณแซนแทนล้มกลิ้งไปอีกทางหนึ่ง เขาคงจะกระโดดหนีด้วยสัญชาตญาณ
ณ วินาทีนี้อะไรก็หยุดคุณดีแซมไม่อยู่แล้ว!!
_____________________________
ปึง!!
คุณดีแซมเหวี่ยงฉันเข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตูห้องด้วยเท้าเสียงดังสนั่นตามโทสะที่กำลังลุกโหมกระหน่ำ
เพราะรู้ว่าคุณดีแซมกำลังอยู่ในอารมร์ใน ตั้งแต่ที่เขาลากฉันออกมาจากงานและขับรถมาที่นี่ฉันก็ไม่ปริปากพูดเลยแม้แต่คำเดียว เขาขับรถเร็วมาก ถึงแม้จะกลัวมากแค่ไหนและอยากร้องไห้มากเพียงใดฉันก็ได้แต่สงบจิตสงบใจตัวเองไว้แค่นั้น ฉันรู้ว่าการร้องไห้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย โดยเฉพาะกับผู้ชายอารมณ์แรงคนนี้
ฉันบีบต้นแขนตัวเองที่ตอนนี้เป็นรอยแดงเพราะฝีมือผู้ชายตรงหน้าเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้ตัวเอง ตอนนี้ฉันไม่อยากพูดอะไรแล้ว ถึงพูดไปก็มีแต่ทะเลาะกันอยู่ดี คุณดีแซมน่ะ...ถ้าได้โกรธขนาดนี้เขาไม่ยอมฟังใครหน้าไหนหรอก
“เธอนี่ก็ปากสว่างเหมือนกันนะ เที่ยวไปบอกเรื่องของเราให้คนอื่นฟังไปทั่ว หึ!”
คุณดีแซมเริ่มสาดคำพูดเจ็บแสบใส่ฉันแล้วเพื่อระบายความโกรธที่กำลังปะทุอยู่ภายในตัวเขา เขาไม่ได้แคร์เลยสักนิดว่าคำพูดแต่ละคำที่เขาพ่นออกมาใส่ฉันกำลังทำให้ฉันรู้สึกแย่แค่ไหน
“เหอะ! ยิ่งเด็กวัดกลายเป็นลูกชายเจ้าของเหมืองเพชรเหมืองพลอยด้วยยิ่งแล้วใหญ่ เธอนี่มันโชคดีจริง ๆ แต่มันแย่หน่อยนะที่แม่ไอ้แซนแทนวางตำแหน่งลูกสะใภ้ไว้แล้ว”คุณดีแซมเหยียดยิ้มสะใจมาให้
ฉันหน้าชาเหมือนถูกคนตรงหน้าตบหน้าแรงๆไม่มีผิด ถ้อยคำที่พลั่งพลูออกมาจากปากคุณดีแซมกำลังสื่อความหมายในทำนองดูถูกฉัน นี่เขาคิดว่าฉันหวังจะจับคุณแซนแทนรึไงกัน
สิ่งที่เขาพูดมันกำลังสื่อถึงว่า...ตลอดระยะเวลาที่ฉันกับคุณดีแซมรู้จักกันมา เขาไม่ได้รู้จักฉันเลยสักนิดเดียว
ฉันเอาแต่มองหน้าคุณดีแซมเงียบ ๆ ด้วยความผิดหวัง ปากมันหนักจนไม่สามารถพูดอะไรได้และอีกเหตุผลหนึ่งคือฉันกำลังข่มตัวเองไม่ให้ร้องไห้ต่อหน้าผู้ชายปากคอเราะร้ายคนนี้
ฉันไม่อยากโดนดูถูกอะไรมากไปกว่านี้แล้ว!!
“บอกมาว่าวันนี้เธอไปโผล่ที่งานได้ยังไงมะลิ?!!” คุณดีแซมขึ้นเสียงถามพลางจ้องหน้าฉันอย่างโกรธจัด ดวงตาคมดุดันมองหน้าฉันอย่างกดดันคาดคั้นเอาคำตอบ
“...” คำตอบของฉันก็คือความเงียบ
ฉันไม่ได้กวนโมโหคุณดีแซมหรอก ฉันแค่ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขา ฉันเหนื่อย...
“อย่าเอาแต่มองหน้าฉัน ตอบมาสิมะลิ!!” คุณดีแซมตรงมากระชากต้นแขนฉันแล้วออกแรงกระชากเข้าหาตัวเขาอย่างแรง มือหนาบีบต้นแขนฉันแน่นจนกระดูกแทบหัก “ได้!! จะเงียบแบบนี้ใช่มั้ย สงสัยฉันต้องง้างปากคนอยากลองดีอย่างเธอด้วยปากฉันซะแล้ว”
สิ้นเสียงประกาศกร้าวคุณดีแซมก็จู่โจมฉันอย่างรวดเร็ว เขาใช้แขนแข็งแกร่งตวัดรัดร่างฉันอย่างแน่นหนาราวกับโซ่ตรวน ฉันเบี่ยงหน้าหลบคนนิสัยไม่ดีและไม่ยอมให้คุณดีแซมได้ทำในสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือการใช้กำลังบังคับขัดขืนใจง่าย ๆ
“ปล่อยฉันนะคุณดีแซม!!” ฉันตะโกนลั่นหวังจะให้คนบ้าได้สติแล้วปล่อยฉันไปสักที
“ตอบฉันมาว่าทำไมเธอถึงไปโผล่ที่งานนั่นกับไอ้เวรนั่นได้” คุณดีแซมสวนกลับแต่ยังไม่ยอมหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนง่าย ๆ เขาไม่ยอมปล่อยฉันให้เป็นอิสระเลยแม้แต่วินาทีเดียว ริมฝีปากของเราเฉียดกันหลายรอบ แต่ฉันไม่ยอมให้เขาเอาชนะง่าย ๆ หรอกนะ
“ฉันจะอยู่ที่ไหนมันสำคัญด้วยเหรอคะ แล้วทีคุณล่ะ คุณยังไปงานนั้นกับน้ำใสได้เลย” ภาพคุณดีแซมกับน้ำใสในงานแล่นเข้ามาในหัวฉันโดยทันที ความโกรธที่ไม่รู้มาจากไหนทำให้ฉันพูดประโยคนั้นออกไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
คุณดีแซมชะงักไปทันตา เขาดันฉันออกแต่มือหนายังคงบีบต้นแขนฉันแน่น ใบหน้าหล่อเหลากระชากยิ้มดูถูกตรงมุมปาก ฉันยืนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยมองผู้ชายคนนี้อย่างไม่เข้าใจ บางวันดีบางวันร้าย เขาจะรู้มั้ยว่าฉันก็มีหัวใจ ฉันไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ใคร เขากำลังจะทำให้ความอดทนของฉันถึงจุดสิ้นสุด
“ทำไม!! เธอคงไม่คิดว่าจะเจอฉันที่นั่นสินะ” คุณดีแซมพูดแล้วใช้ดวงตาคมมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่พอใจ “แต่งตัวอย่างนี้จะเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของมันแลกเงินห้าหมื่นนั่นรึไง”
เพียะ!!!
ฉันทนฟังคำสบประมาทที่กำลังหยามเหยียดศักดิ์ศรีของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ความโกรธทำให้ฉันมีแรงผลักคุณดีแซมออกไปจนสุดแรงก่อนจะตบหน้าเขาเสียงดังสนั่นจนเขาหน้าหัน
บอกเลยว่าฉันไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดที่ตบหน้าเขา!!
น้ำตาที่ฉันพยายามกั้นมาตลอดไหลทะลักอาบสองข้างแก้มอย่างสุดจะกลั้น
“คุณอยากรู้ใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงไปโผล่ที่งานได้” ฉันตะคอกคุณดีแซมกลับด้วยอารมณ์ล้วน ๆ แล้วปาดน้ำตาทิ้ง “เพราะฉันกำลังหาเงินห้าหมื่นมาคืนคุณยังไงล่ะ”
“...!!!” คุณดีแซมหันขวับมามองหน้าฉันทันที ใบหน้าหล่อเขาแสดงถึงความตกใจไม่น้อย
“เพราะฉันทนแบกรับความอึดอัดและความเจ็บปวดที่คุณให้ฉันไม่ได้อีกแล้ว ฉันถึงต้องระบายให้คุณแซนแทนฟังไงล่ะ”
“...!!”
“มันผิดมากใช่มั้ยคะที่คุณแซนแทนจะช่วยฉัน มันผิดมากใช่มั้ยถ้าหากว่าวันนึงฉันจะทนคุณไม่ได้อีกแล้ว มันผิดมากใช่มั้ยที่ฉันอยากจะไป”
ฉันกับคุณดีแซมจ้องหน้ากันนิ่ง ไม่มีใครพูดอะไร ณ วินาทีนี้ นัยน์ตาสีน้ำเงินสวยสั่นระริกและเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง...คุณดีแซมกำลังเจ็บปวด
เพียงเสี้ยววินาทีที่ฉันเห็นความรู้สึกนั้นฉาดชัดในดวงตาคู่สวย เพราะนี้ตอนนี้ความโกรธกำลังเข้ามาแทนที่!!
“ฉันจะไม่ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นแน่มะลิ!!” เมื่อพูดจบคุณดีแซมก็พุ่งเข้ามารวบต้นขาแล้วออกแรงอุ้มฉันขึ้นพาดบ่าอย่างรวดเร็ว
“คุณจะทำบ้าอะไรน่ะคุณดีแซม ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!!” ฉันกรีดร้องปากคอสั่น สองขาและสองมือดิ้นเอาตัวรอดอย่างเอาเป็นเอาตาย
คุณดีแซมกลายเป็นคนหูหนวกไปแล้ว เขาไม่สนใจเสียงร้องของฉันเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำร่างสูงยังพาฉันเข้าไปในห้องนอนก่อนจะปล่อยฉันลงบนเตียงอย่างรวดเร็วและรุนแรงตามอารมณ์ เพราะชุดที่ฉันสวมอยู่มันรุ่มร่ามเกินกว่าที่ฉันจะลุกหนีไปได้ง่าย ๆ พอรู้ตัวอีกทีร่างทั้งร่างก็ถูกขึ้นคร่อมซะแล้ว
คุณดีแซมกดแขนทั้งสองข้างของฉันไว้เหนือหัว ใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นก้มลงมาชิดจนจมูกของเขาชิดกัน ลมหายใจอุ่นร้อนจากร่างสูงที่เป่ารดใบหน้าทำให้ฉันเริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ
“เธอจะหาเงินห้าหมื่นมาคืนฉันงั้นเหรอ!”
“...”
“งั้นเงินนั่นฉันยกให้เธอ แลกกับให้เธอมาเป็นของฉันคืนนี้ก็แล้วกัน!!”
ทันทีที่คุณดีแซมพูดจบ ฉันก็รู้ชะตากรรมตัวเองในคืนนี้ทันที!!!
หัวใจฉันเจ็บร้าวเหมือนโดนคุณดีแซมบีบเล่น เขากำลังดูถูกฉัน!! ฉันไม่ได้ขายตัวนะ!!
“กรี๊ดดดดดดดดดด!! หยุดนะคุณดีแซม อย่าทำอะไรบ้าๆนะ” ฉันกรีดร้องสุดเสียงด้วยความกลัวจนแสบคอพร้อมกับสะบัดหน้าหนีคนหยาบคายจนหัวแทบหลุดเพราะคุณดีแซมก้มหน้าลงมาประชิดหวังจะจูบ
วินาทีนี้คุณดีแซมไม่ฟังอะไรแล้ว เขาบังคับจูบฉันได้สำเร็จ! รสจูบที่เขายัดเยียดให้มันไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด สิ่งที่เขามอบให้มีแต่ความป่าเถื่อน รุนแรง และหยาบคาย
น้ำตาแห่งความอดสูไหลเป็นทางยาว แต่นั่นไม่ได้ช่วยให้ผู้ชายคนนี้เกิดสำนึกอะไรขึ้นมาเลย
“คุณมันบ้า!!” ฉันตะโกนใส่หน้าคุณดีแซมอย่างโกรธแค้นและเกลียดชังเมื่อเขาถอนจูบออกเพื่อเปลี่ยนมาจู่โจมซอกคอฉันแทน เขาเปลี่ยนมากดมือฉันทั้งสองข้างด้วยมือเขาเพียงข้างเดียว มืออีกข้างของเขากำลังเลื่อนลงมาจัดการกับชุดของฉันด้วยมือเดียว!!
ไม่นะ!!
“เธอจะว่าฉันยังไงก็ช่าง แต่ไม่มีวันที่ฉันจะปล่อยเธอไป เธอต้องเป็นของฉันคนเดียวมะลิ จำไว้ว่าเธอเป็นของฉัน!!”
ฉันร้องไห้อย่างหนักกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น คุณดีแซมใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีเขาก็จัดการปราการทุกชิ้นจากร่างกายเราสองคนออกจนสิ้น
“ไหนคุณเคยบอกว่าจะไม่ทำอะไรคนไม่เต็มใจไงล่ะ ฉันไม่ได้เต็มใจคุณเลยนะ” ฉันดึงเหตุผลมาพูดหวังจะให้คุณดีแซมได้สติบ้าง
...แต่เปล่าเลย...
“ต่อไปนี้ฉันจะไม่สนอีกแล้วว่าใครจะด่าจะตราหน้าฉันว่ายังไง ต่อให้ฉันต้องเป็นไอ้หน้าตัวเมีย ถ้าต้องเสียเธอไปฉันทนไม่ได้!”
“ไม่นะคุณดีแซม!!”
Hello!! My Cinderella นางซินหน้าใสขอเขย่าหัวใจคุณชายเพลย์บอย