Hello!! My Cinderella นางซินหน้าใสขอเขย่าหัวใจคุณชายเพลย์บอย
Chapter 64 : กัดไม่ปล่อย
ณ คอนโด K...
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณแทนคุณ สิริเจริญกุลอยู่ห้องไหนคะ?” ทันทีที่มาถึงคอนโดคุณแซนแทนฉันก็เดินตรงเข้าไปถามโอเปอร์เรเตอร์ตรงล็อบบี้ ฉันเคยมาที่นี่ก็จริงแต่ไม่เคยขึ้นไปบนห้องคุณแซนแทนเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ห้องไหน ชั้นอะไร
“ขอโทษนะคะ รบกวนขอสอบถามชื่อหน่อยนะคะ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ?”
“มะลิค่ะ”
“รอสักครู่นะคะ ^^”โอเปอร์เรเตอร์สาวตอบกลับด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรก่อนจะยกหูโทรศัพท์ต่อสายตรงหาเจ้าของห้องที่ฉันถามหาทันที
คอนโดนี้มีมาตรการรักษาความเป็นส่วนตัวของเจ้าของห้องค่อนข้างสูงต่างจากคอนโดอื่นทั่วไปตรงที่เวลาใครมาหาจะต้องโทรบอกเจ้าของห้องเพื่อบอกให้เจ้าของห้องรับทราบซะก่อน
โอเปอร์เรเตอร์สาวคุยโทรศัพท์ครู่หนึ่ง เมื่อได้ความแล้วเธอจึงวางสาย
“คุณแทนคุณอยู่ห้อง 1302 ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ ^_^”
พอได้คำตอบแล้วฉันก็ไม่รอช้า รีบเดินไปขึ้นลิฟต์ทันที และไม่น่าเชื่อว่าฉันจะเจอใครบางคนเข้า
ติ๊งงงง~
ฉันเดินมารอลิฟต์เป็นจังหวะเดียวกับที่ลิฟต์เปิดออกพอดี มันคงเป็นเรื่องบังเอิญที่ฉันดันสบตาเข้ากับน้ำว้าพอดี
“อ้าวมะลิ เธอมาทำอะไรที่นี่” น้ำว้าทักขึ้น เธอดูแปลกใจน่าดูที่เห็นฉัน
“อ้อ พอดีฉันจะมาเอาสร้อยพระที่ลืมไว้กับเพื่อนน่ะจ้ะ แล้วน้ำว้าล่ะมาทำอะไรเหรอ?” ฉันก็แปลกใจไม่ต่างกัน หรือว่าพี่คอปเตอร์มีคอนโดที่นี่ด้วย
“ฉันก็มาเอาของที่เพื่อนเหมือนกัน เนี่ยก็กำลังจะรีบกลับ คอปเตอร์โทรจิกยิ่งกว่าแม่ซะอีก -[ ]-^^^”
ไม่รู้ว่าฉันจะสงสารน้ำว้าดีมั้ยนะที่มีแฟนขี้หวงขี้หึงแบบนี้ (^^;;) อย่างที่รู้ว่าพี่คอปเตอร์น่ะหวงน้ำว้าอย่างกับอะไร อีกอย่างน้ำว้าน่ะมีแต่เพื่อนผู้ชายนี่นา แถมหน้าตาดีด้วย อ้อ เป็นโจทก์เก่าด้วยค่ะ ฉันรู้มากว่ากล้วยเจ๋งชอบน้ำว้า ดูเหมือนว่าพี่คอปเตอร์จะไม่ค่อยไว้ใจให้สองคนนี้อยู่ใกล้ชิดกันสักเท่าไหร่นะ
ติ๊ดๆๆๆ~ ติ๊ดๆๆๆ~
เสียงมือถือในมือน้ำว้าดังขึ้น เธอเอาขึ้นมาดู พอรู้ว่าเป็นใครโทรมาน้ำว้าก็เริ่มลนลาน
“ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ ไว้เจอกันนะมะลิ”น้ำว้าพูดแค่นั้นก่อนจะกดรับสายพร้อมรีบสาวเท้าเดินออกจากคอนโดไปอย่างรีบร้อน
ฉันได้แต่มองตามน้ำว้าไปยิ้มๆกับความน่ารักเธอเพื่อนคนนี้ ฉันเลิกสนใจเรื่องของคนอื่นแล้วเดินเข้าลิฟต์ไป มุ่งหน้าไปยังชั้นสิบสามทันที ใช้เวลาไม่นานฉันก็มาถึงหน้าห้อง 1302 ตามที่โอเปอร์เรเตอร์สาวบอก
ก๊อกๆๆ~ ก๊อกๆๆ~
ฉันเคาะประตูเรียกคนในห้องให้มาเปิด สิ้นเสียงเคาะประตูคนเจ้าของห้องคนที่ฉันต้องการพบก็เปิดประตูออกมาอย่างกับว่าเขารอฉันอยู่ก่อนแล้ว
วันนี้คุณแซนแทนแปลกๆ เขาไม่ยิ้มแย้มเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเรียบ ดวงตาคมฉายแววบางอย่างที่ฉันไม่สามารถอ่านความคิดเขาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรตอนเขามองหน้าฉันตอนนี้
“เข้ามาก่อนสิครับ”
เจ้าของห้องบอกอย่างนั้นฉันก็เดินเข้าห้องไป ทันทีที่ประตูปิดลงฉันต้องตกใจสุดชีวิตเพราะมีมือปริศนาเอื้อมเอาผ้ามาปิดปากฉัน ในห้องนี้มีคนอื่นนอกจากคุณแซนแทนอยู่ด้วย!!!
ฉันดิ้นหนีสุดชีวิต ต้องการจะหนีบุคคลที่สามที่น่าจะหลบอยู่หลังประตูรอจังหวะที่ฉันเดินเข้ามาแล้วเอาผ้าที่ใส่ยาสลบเอาไว้มาปิดจมูกฉันแบบนี้
“อื้อออออ!!!”ฉันกรีดร้องเสียงดังในลำคอหวังจะให้คนที่อยู่นอกห้องนี้เข้ามาช่วย ฉันกลั้นหายใจไว้หลีกเลี่ยงการสูดเอายาสลบเข้าไป แต่ฉันคงกลั้นหายใจได้ไม่นานแน่
ความกลัวเริ่มเข้ามาเกาะกินใจ...
“อื้อออออออออ...”
ฉันพยายามร้องขอให้คุณแซนแทนที่ได้แต่ยืนนิ่งมองฉันอยู่ให้มาช่วย
ร่างสูงได้แค่มอง...ไม่แม้แต่จะก้าวขาเข้ามาช่วยเลยด้วยซ้ำ
“ผมขอโทษนะมะลิ...”
นั่นคือประโยคสุดท้ายของคุณแซนแทนที่ฉันได้ยินก่อนที่ภาพตรงหน้าจะดำมืดลง...สติของฉันดับวูบไป...
____________________________
ก่อนหน้านี้...
“ว่าไงล่ะ พี่จะร่วมมือกับฉันมั้ย?”
ภายในห้องสุดหรูของคอนโดดังเงียบกริบ ไม่มีเสียงใด ๆ ดังรบกวนบทสนทนาระหว่างคนคู่หนึ่ง...
หญิงสาวร่างเล็กยิงคำถามใส่ชายหนุ่มเจ้าของห้องเมื่อเธอมาขอให้เขาร่วมมือแผนการบางอย่าง ชายหนุ่มคิดหนัก เขาได้แต่จ้องหน้าหญิงสาวเงียบๆ ในหัวเขาตอนนี้กำลังทะเลาะกันระหว่างความดีและความชั่วจนหัวแทบระเบิด
“พี่ว่ามันไม่ดีหรอกน้ำใส มะลิเป็นคนดีพี่ทำไม่ลง” ชายหนุ่มแย้ง เขารู้สึกสับสนมาก
“ดีไม่ดีมันไม่ใช่เรื่องหรอกพี่แทน ฉันรู้ว่าพี่รักมัน”
“ใช่ พี่รักมะลิ แล้วพี่ก็ทำอย่างที่เธอบอกไม่ลงด้วย”
“ถ้าพี่ไม่ทำพี่ก็ดูมันกับพี่ดีแซมสมหวังกันไปนะ”
พอหญิงสาวพูดประโยคนี้จบชายหนุ่มถึงกับสะอึก ความดีความชั่วในใจเริ่มดีกันอีกครั้ง...
น้ำใสเป็นลูกสาวคนเดียวของน้าแท้ ๆ ของแซนแทน ใช่แล้ว...พวกเขารู้จักกัน พวกเขาเป็นลูกน้องกัน น้ำใสรู้มาตลอดว่าแซนแทนรักมะลิ แต่เธอไม่ได้ช่วยเหลือเขาเลยเนื่องจากเธอเกลียดมะลิเข้ากระดูกดำ
เมื่อแซนแทนรู้ว่าน้ำใสเคยคิดจะเอาชีวิตมะลิเขาจึงมาอาละวาดน้องสาวเขาอย่างโกรธจัด แต่น้ำใสกลับไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย หนำซ้ำเธอยังนึกเจ็บใจด้วยซ้ำที่มะลิยังมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ได้
ทำไมไม่ตาย ๆ ไปซะ!
“มันไม่ยากหรอกพี่แทน ฉันรู้จักมะลิดี พี่ก็รวบหัวรวบหางมันซะแล้วก็พามันไปอยู่อเมริกา ไปไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก ไหน ๆ ครอบครัวพี่ก็ไม่ได้รักพี่มากมายอะไรอยู่แล้ว” เมื่อเห็นแซนแทนกำลังสับสนน้ำใสจึงใช้โอกาสนี้โน้มน้าวใจเขาให้ร่วมแผนการกับเธอ
“...”
“จริงอยู่ที่มะลิมันอาจจะไม่เต็มใจที่จะไป แต่พอมันได้ไปอยู่อเมริกากับพี่แล้วมันอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ใครจะรู้”
น้ำใสจ้องตาแซนแทนตรง ๆ เพื่อให้เขาตายใจว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นจะเป็นความจริงในสักวันหนึ่ง
จริงอยู่ที่เธอปล่อยดีแซมไปแล้ว...เธอปล่อยเขาไป แต่เธอไม่ได้บอกว่าจะปล่อยมะลิไปนี่นา ฮึๆๆๆ...
ในเมื่อฉันไม่สมหวัง ก็อย่าคิดว่าคนอย่างแกจะสมหวังเลยนังมะลิฉัตร!...
“แล้วเธอจะให้พี่ทำยังไง”
น้ำใสกระหยิ่มยิ้มพอใจ แซนแทนพูดเหมือนจะลงเรือลำเดียวกับเธอแล้ว มันง่ายมากเลยที่จะใช้ความไว้ใจที่มะลิมีต่อแซนแทนมาเป็นเครื่องมือในแผนนี้
“พี่มีกล้องวีดิโอมั้ยล่ะ” น้ำใสยิ้มมุมปากในขณะที่แผนการชั่วร้ายเริ่มชัดเจนขึ้นในหัว
ติ๊ดๆๆๆ~ ติ๊ดๆๆๆ~
ทันใดนั้นเสียงมือถือแซนแทนบนโต๊ะหน้าโซฟาเบื้องหน้าเขาก็ดังขึ้น ชื่อคนโทรมาโชว์หราบนหน้าจอมือถือ เห็นแบบนั้นน้ำใสจึงรีบคว้ามันไปถือไว้ก่อนที่เจ้าของมือถือจะทันได้แตะมันด้วยซ้ำ
“ล่อมันออกมาเจอพี่ที่นี่ให้ได้ พูดยังไงก็ได้ให้มันมา ยิ่งเป็นวันนี้ได้ก็ยิ่งดี” น้ำใสสั่งการทันที น้ำเสียงหนักแน่นนั้นเต็มไปด้วยประสงค์ร้าย
“รู้แล้วน่ะ เอามือถือคืนมา พี่จะพูดเอง” แซนแทนบอกขณะที่ยังสับสนกับความคิดตัวเองว่าจะทำยังไงดี
มันจะดีจริง ๆ อย่างนั้นน่ะเหรอ...แต่ถ้าเขาปล่อยไปแบบนี้ ถ้ามะลิใจอ่อนแล้วไปคบกับดีแซมเขาจะทนดูได้ยังไงกัน
“คุยมันตรงนี้แหละ รู้ใช่มั้ยว่าพี่จะต้องทำยังไง” น้ำใสบอกแค่นั้นแล้วกดรับสายโดยไม่บอกกล่าวแซนแทนให้เขาเตรียมใจก่อนเลยด้วยซ้ำ เธอเปิดสปีกเกอร์โฟนให้ได้ยินกันทุกคน
“ว่าไงครับมะลิ” แซนแทนกรอกเสียงลงไป แต่น้ำเสียงของเขามันเครียดเกินไปจนน้ำใสต้องจิกตามองด้วยความไม่พอใจ เขากำลังทำให้มะลิจับได้นะ!
[คือฉันจะถามว่าคุณแซนแทนเห็นสร้อยพระของฉันหรือเปล่าคะ วันที่คุณเอากระเป๋ามาคืนฉันคุณเห็นมันบ้างหรือเปล่า?] คำถามของมะลิทำให้แซนแทนต้องนิ่วหน้าคิดจนคิ้วขมวด
“สร้อยพระเหรอครับ...” สร้อยพระเหรอ? มะลิมีของแบบนี้ด้วยเหรอ...เขาไม่เคยเห็น น้ำใสถลึงตามองชายหนุ่มเมื่อเขาเอาแต่นั่งคิดนานเกินไปจนมีพิรุธ และในที่สุดวินาทีนี้แซนแทนก็รู้ว่า...ความชั่วในตัวเขาชนะความดี “ใช่ครับ อยู่ที่ผม”
[เฮ้ออออ โล่งอกหน่อย ฉันนึกว่าฉันทำหายซะอีกค่ะ]
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยสบายน่ะครับ ถ้ายังไงมะลิเข้ามาเอาเองได้มั้ย”
[ได้ค่ะ] มะลิรับคำทันที น้ำใสยิ้มกว้างอย่างพอใจอีกครั้งกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับมะลิ เธอไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าแซนแทนกำลังเครียดจนแทบบ้าแค่ไหน เพราะยังไง...ความสะใจของเธอมันต้องมาเป็นที่หนึ่ง
“มะลิเข้ามาเอาสร้อยพระวันนี้ก็แล้วกันนะครับ”
น้ำใสตัดสายทิ้งทันทีที่แซนแทนพูดจบก่อนที่เขาจะเผยพิรุธให้มะลิจับได้ไปมากกว่านี้ เหอะ! แค่นี้ก็จบแล้ว นังมะลิน่ะหลอกง่ายจะตาย
“ดีมากพี่แทน ถ้าแผนของเราสำเร็จพี่ก็ใช้วีดิโอแบล็กเมล์มะลิ บังคับให้มันไปอยู่กับพี่ที่อเมริกาซะ”
แซนแทนได้แต่นั่งเงียบ ณ วินาทีนี้เขาคงถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว...
ขอโทษนะมะลิ...เพราะรักผมจึงต้องเลว...
________________________
[::D-Sam’s Part::]
มันเป็นอะไรที่เซ็งมากเมื่ออาจารย์นัดสอบนอกรอบ =^=;;
ให้ตายเซ่! นี่มันก็เย็นแล้วนะ ผมจะเรียบไปหามะลี๊ T^T เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ ผู้หญิงอะไรทำให้ผมอยากอยู่ด้วยตลอดเวลา ไม่รู้ว่ายัยนั่นจะกลับบ้านไปหรือยังนะ ตอนแรกผมว่าจะเข้าไปดักรอเธอที่คณะสักหน่อย แต่อาจารย์กลับมาดับฝันผมซะนี่!
ตอนนี้ผมกับเพื่อนนั่งรออยู่ในห้องเรียนเพื่อรอเวลาที่อาจารย์เอมิลี่เข้ามาสอบวิชาเศรษฐศาสตร์ระดับสูง กว่าจะถึงเวลาก็อีกตั้งครึ่งชั่วโมง ผมไม่ชอบเลยอะไรที่ต้องรอ มันรู้สึกนานเกินไปยังไงไม่รู้
“ยัยบ้าเอ๊ย นี่ถ้าฉันไม่โทรตามก็ไม่รู้ใช่มั้ยว่าไปคอนโดไอ้กล้วยจืด” ไอ้คอปเตอร์ที่นั่งอยู่ด้านหลังผมกัดฟันกรอดพร้อมกับกดโทรไปหาคุณภรรเมียสุดที่รักของมันเป็นรอบที่สิบห้า
ก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่ากล้วยเจ๋งเป็นเพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อกับน้ำว้า ไม่แปลกหรอกที่คนขี้หวงแฟนอย่างไอ้คอปเตอร์มันจะโกรธจนควันออกหูแบบนี้น่ะนะ ตอนแรกมันก็ไม่ปรี๊ดเท่านี้หรอก พอรู้ว่าน้ำว้าไปเอาของที่คอนโดกล้วยเจ๋งเท่านั้นแหละ โทรจิกยิ่งกว่าไก่อีก เพราะอะไรน่ะเหรอ...ก็กล้วยเจ๋งยังตัดใจจากน้ำว้าไม่ได้น่ะสิ
แย่นะที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบน้ำว้า เธอคงลำบากใจที่ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับกล้วยเจ๋ง ทำเหมือนลืมไปว่ากล้วยเจ๋งเคยสารภาพรักและขอเธอเป็นแฟน
“เดี๋ยวยัยนั่นก็มา ไม่ต้องโทรตามขนาดนั้นก็ได้มั้ง” ไอ้ไบรอันว่าพลางส่ายหน้าอย่างเอือมระอาสุด ๆ กับนิสัยเพื่อน
“ถ้าเมลล์ไปติวหนังสือสองต่อสองให้ริวกิรุ่นน้องที่คณะที่แอบชอบยัยนั่น แกจะทำแบบฉันมั้ยล่ะ” ไอ้คอปเตอร์ย้อนทันที
“แน่นอนสิวะ!” ไอ้ไบรอันตอบแทบไม่ต้องคิด
ผมหลุดขำกับคำพูดเพื่อนเบา ๆ พอกันเลยไอ้สองตัวนี้อ่ะ ก็อย่างว่า ถ้าเป็นผม...ผมก็คงจะโทรตาม ไม่รักก็คงไม่หวงหรอกครับ
“โอ๊ยยยย! มาแล้ว ๆ จะโทรตามอะไรกันนักกันหนาเนี่ย” เสียงใสโวยวายดังขึ้นพร้อมกับน้ำว้าที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามาในห้อง เธอตวัดตาเขียวปั๊ดมองไปยังแฟนตัวเองที่นั้งหน้าบึ้งรออยู่
น้ำว้าน่ะมาตึกนี้บ่อย เธอมักจะมานั่งเล่นกับพวกผมแบบนี้จนเราสนิทกันไปแล้ว มีบ้างที่เมลล์จะมาแต่ก็ไม่บ่อยนัก รายนั้นพี่ชายเขาหวงน่ะถึงแม้ว่าไบรอันกับเมลล์จะหมั้นกันแล้วก็ตาม
“แล้วใครใช้ให้เธอไปกับไอ้กล้วยจืดแล้วไม่บอกฉันฮะ!” ไอ้คอปเตอร์โวยวายบ้าง มันผลักหัวน้ำว้าเบา ๆ ตอนยัยตัวแสบเดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ มัน
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไปนานซะหน่อย ก็แค่ไปเอางานที่ฝากกล้วยเจ๋งไว้ก็เท่านั้นแหละน่า ทำเป็นโวยวายไปได้ ชิ!”น้ำว้าย่นจมูกใส่ไอ้คอปเตอร์ หมั่นไส้คนขี้หวงสุด ๆ
“ต่อไปนี้จะไปกับมันต้องบอกฉันด้วย เข้าใจมั้ย”
“ค่ะ เจ้านาย” น้ำว้ายักคิ้วข้างเดียวให้คอปเตอร์ ยัยตัวดียังกระตุกยิ้มกวนตรงมุมปากอีกต่างหาก น้ำว้าไม่ได้มีความกลัวไอ้คอปเตอร์เลยแม้แต่น้อย รู้เลยว่าแต่งงานกันไปไอ้เพื่อนคนนี้ของผมต้องกลัวเมียแน่ ๆ
ผมปล่อยให้เพื่อนทะเลาะกับแฟนไป ไอ้ไบรอันก็เหมือนกัน มันหันไปอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบแล้ว ส่วนผม...ก็กำลังจะโทรหามะลิ โทรไปขอกำลังใจหน่อยแล้วกัน ถ้ายัยนั่นรับสายนะ T_T
ทว่า...
“เอ้อ เห็นพี่ดีแซมแล้วน้ำก็นึกขึ้นได้เลย ก่อนมาที่นี่น้ำเจอมะลิด้วยนะที่คอนโดฯ กล้วยเจ๋งอ่ะ”
ประโยคนี้ของน้ำว้าให้ผมกับไอ้ไบรอันหันขวับไปจ้องหน้าน้ำว้าอย่างสนใจทันที
“คอนโดฯ กล้วยเจ๋งเนี่ยนะ?” ผมถามเสียงสูง น่าเหลือเชื่อแฮะ ยัยนั่นไปรู้จักใครที่นั่นด้วยเหรอ
“ใช่ค่ะ เห็นบอกว่าจะไปเอาของที่เพื่อน”
“เพื่อน?” ผมขมวดคิ้วมุ่น พยายามเค้นสุดชีวิตว่ามะลิไปเอาของที่เพื่อนคนไหน
“ต้องเป็นเพื่อนคนนั้นแน่เลย” แล้วน้ำว้าก็โผล่งขึ้นเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ “คนที่ชื่อแทนน่ะ ที่มะลิบอกว่าเป็นเด็กวัดน่ะ น้ำจำได้ว่าเคยเห็นเขาที่คอนโดฯ เดียวกับกล้วยเจ๋ง แต่ก็นึกไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน”
“ไอ้แทน!!!” ผมตกใจจนนั่งไม่ติด ให้ตายสิวะ ผู้หญิงของผมกำลังจะไปหาผู้ชายคนอื่น ท่าทางน้ำว้าคงไม่รู้จักไอ้แซนแทนด้วยซ้ำว่ามันเป็นลูกไฮโซชื่อดัง ไม่งั้นเธอยังจะคิดว่ามันเป็นเด็กวัดอยู่แบบนี้เหรอ
“น้ำก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นแทนที่ไหน พอเจอมะลิวันนี้เลยนึกออกว่าเคยเห็นเขาครั้งนึง เห็นมะลิบอกว่าจะไปเอาสร้อยพระอะไรสักอย่าง”
ปึง!!!
น้ำว้าตกใจตัวโยนเมื่อผมตบโต๊ะเสียงดังอย่างโกรธจัดจนเพื่อนร่วมห้องต้องหันมาสนใจ
“ไอ้สารเลวเอ๊ย!!” ผมสบถเสียงดังอย่างหัวเสีย ผมรีบวิ่งออกมาจากห้องทันที พวกเพื่อนผมเห็นท่าไม่ดีเลยรีบวิ่งตามมารั้งผมไว้
“เกิดอะไรขึ้นวะ?” ไอ้ไบรอันถามหน้าตื่น
“สร้อยพระของมะลิอยู่ที่ฉันน่ะสิวะ มะลิโดนหลอกให้ไปหาไอ้สารเลวนั่นน่ะสิ!!” ผมตอบ ตั้งใจจะรีบไปช่วยมะลิแต่ก็ถูกไอ้ไบรอันดันอกรั้งไว้อีกครั้ง
“ที่จะรีบไปนี่รู้แล้วเหรอว่าคอนโดฯ หมอนั่นอยู่ไหน?”
“...!!”
“น้ำรู้ค่ะ” ทุกคนหันขวับไปมองหน้าน้ำว้าอย่างมีความหวัง แต่... “แต่น้ำไม่รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหน จู่ ๆ แห่กันไปถามโอเปอร์เรเตอร์แบบนี้มีหวังเขาคงไม่บอกแน่ ที่นั่นมีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูง เขาจะโทรไปถามเจ้าของห้องก่อนทุกครั้งหากแขกต้องการพบ”
“ให้ตายสิวะ!!”ผมสบถลั่น บอกเลยว่าตอนนี้ผมหัวเสียสุด ๆ
“ถ้าเป็นแบบที่น้ำว้าบอกคงไม่มีทางรู้แน่ว่าไอ้หมอนั่นอยู่ห้องไหน ขืนไปเคาะทุกห้องมันคงเสียเวลา”
“ไอ้คอปเตอร์พูดถูก งั้นเอาเป็นว่าให้น้ำว้าโทรไปบอกกล้วยเจ๋งให้ไปตะล่อมถามโอเปอร์เรเตอร์ว่าไอ้คนที่ชื่อแทนนี่อยู่ห้องไหน หมอนั่นอยู่คอนโดฯ นั้นคงจะล่อถามง่ายหน่อย”
ไอ้ไบรอันที่มีสติที่สุดช่วยแก้ไขปัญหาเพราะตอนนี้ผมใจร้อนเกินไปเกินกว่าจะคิดอะไรออก
ถ้าผมเจอไอ้แซนแทน ผมฆ่ามันแน่!!!
[::End : D-Sam’s Part::]
Hello!! My Cinderella นางซินหน้าใสขอเขย่าหัวใจคุณชายเพลย์บอย