ชีวิตจักรพรรดิของข้า

บทที่ 4 ยาจกคนหนึ่ง

บทที่ 4 ยาจกคนหนึ่ง

สี่เอ๋อรีบเข้าไปปลอบพลางกล่าวว่า “พระสนม สี่เอ๋อรู้สึกว่า....ฝ่าบาทวันนี้ ราวกับแปลกไปเล็กน้อย เหมือนกับว่าจะแตกต่างจากเมื่อก่อน.....แตกต่างจากเมื่อก่อนไม่เหมือนเดิม...”

ในใจเธอคิดแบบนี้จริงๆ แต่จะให้บอกก็บอกไม่ถูก เพียงแต่รู้สึกได้ว่าฝ่าบาทในวันนี้ไม่เหมือนกับวันก่อนๆ

พระสนมจิ่น เหม่อลอย เลิกคิ้วเรียวขึ้น ก้มหน้าลงคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยละเอียด เป็นดังว่าจริงๆ ฝ่าบาทวันนั้นดูแปลกไปจากวันก่อนๆ

ได้แต่หวังว่าจะไม่ใช่ความสนใจเพียงชั่วครู่ชั่วยาม มิเช่นนั้น ภายในประเทศทั่วแค้นจะเผชิญภัยพิบัติ ราชวงศ์ เย่เทียนจะต้องพังพินาศเพราะนางจิ้งจอกนั่น ฮ่องเต้ทำให้ราษฎรนับพันต้องตกอยู่ในอันตราย ต่อไปจะมีหน้าไปพบบรรพบุรุษได้เยี่ยงไรกัน

“สี่เอ๋อ พวกเรากลับตำหนักกันเถอ” พระสนมจิ่นถอนหายใจเบาๆ ลุกขึ้นยื่นเดินออกไป แต่มีเสียงว้ายร้องออกมาเบาๆ พลางขมวดคิ้ว

“พระสนม...” สี่เอ๋อตกอกตกใจ รีบเข้าไปประคองพระสนม

พระสนมจิ่นกัดริมฝีปาก สีหน้าด้านข้างตระหนก กล่าวอย่างเอียงอายว่า “พี่สามไม่ได้บอกว่า....ว่า...ว่า....พวกนั้น....ทำไม......”

สตรีในสมัยโบราณเมื่อแต่งงานออกไป บางเรื่อง รุ่นอาวุโสก็จะแอบบอกแอบสอนว่าในคืนเข้าหอนั้นจะต้องทำอย่างไร แล้วก็ยังให้รูปชุนกงถู(ภาพวาดอีโรติกประเภทหนึ่ง)มาชุดหนึ่งมาฝึก เรื่องพวกนั้นเป็นพี่สามที่แอบบอกเธอ แต่ว่า แต่ว่า หลังจากผ่านมาแล้ว มีบางอย่างไม่เหมือนกับที่พี่สาวบอก แต่พอนึกย้อนกลับไป ก็ทำให้เธอหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย

สี่เอ๋อที่สองแก้มแดงปลั่งก็กล่าวขึ้นว่า “พระสนม คุณหนูสามเป็นคนจิตใจดี จะโกหกได้อย่างไร หรือไม่...ไม่อย่างนั้นพระสนมกลับไปดูรูป.....ที่คุณหนูสาวให้เอาไว้.....”

พระสนมจิ่นที่พวงแก้มทั้งสองข้างปรากฏสีแดง นายบ่าวทั้งสองคนรีบรุดกลับไปที่ตำหนักอย่างเงียบๆ ทิ้งไว้แต่พวกขุนนางอำมาตย์ นางใน ขันทีให้รออยู่ที่ด้านนอกประตูต่อไป

ห้องอักษร

เย่เทียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เปิดสมุดบัญชีอ่านทีละหน้าทีละหน้า สีหน้ามืดมนเหมือนฝนกำลังตก

เสนาบดีกรมคลังที่ยืนมือตกคอยรับใช้อยู่ที่มุมหนึ่งหลี่จิ้นคอยดึงเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อบนใบหน้าที่ผุดพรายก็มาเป็นระยะ ร่างกายที่เต็มไปด้วยไขมันสั่นสะเทือนกระเพื่อมเป็นระลอก

วันนี้ไม่รู้ฮ่องเต้กินยาผิดขนานไหนมา พลันมีราชองค์การให้เขาเข้าพบ สอบถามเกี่ยวกับเงินในท้องพระคลัง จากนั้นก็ทำหน้าโหดโมโห ให้เขาเอาบัญชีในช่วงสองปีนี้ออกมาให้ดู พลิกอ่านเองทีละหน้า จะไม่ให้เขาตกใจจนหัวใจจะวายได้อย่างไร

เย่เทียนเมื่อพลิกอ่านไปหนึ่งหน้า สีหน้ายิ่งคล้ำหมองลง หลังจากถอดหมวกแห่งความจนออก ตัวเขาเองก็พลันใจเย็นลง ฮ่องเต้คือโอรสสวรรค์ ฮ่องเต้เป็นที่เคารพนับถือ แท้จริงแล้วไม่ง่ายเลย อย่างน้อยดูจากตอนนี้ เขาคิดว่าบัลลังก์ของเขาตอนนี้เริ่มจะไม่มั่นคง

ได้รับถ่ายทอดความทรงจำที่ขาดวิ่นของฮ่องเต้คนก่อน เขาก็ได้รู้ว่าแผ่นดินที่กว้างใหญ่นี้ประกอบด้วยประเทศโจว ประเทศฉู่ ประเทศเย่น ประเทศหาน ประเทศจิน ประเทศเทีนยเหยียน หกประเทศ ในบรรดาประเทศทั้งหลายนั้นถือว่าชายแดนของประเทศโจวมีอาณาเขตกว้างไกลที่สุด ประชากรมาก อำนาจการปกครองแข็งแกร่งที่สุด เป็นพื้นที่ราบกว้างใหญ่ที่ร่ำรวยที่สุด

แต่สำหรับกว้างใหญ่ขนาดไหน ประชากรเท่าไหร่ ความทรงจำของฮ่องเต้ที่ตายเป็นผีนี่ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน พระสนมลี่กลับเป็นสิ่งเดียวที่ฮ่องเต้นั่นจำได้ชัดเจนที่สุด แม้แต่พระสนมจิ่นที่สวยหยาดฟ้ามาดินระดับสาวงามยังเป็นรองพระสนมลี่คนนี้เลย เห็นได้ชัดว่าระดับความหลงใหลในพระสนมลี่ มีเท่าไหร่

แหะๆ นี่ต้องขอบคุณพระสนมลี่ เป็นเพราะเธอที่รวมเอาความสนใจของฮ่องเต้จากสนมสามพันกว่าคนในวังหลังไปจนหมด ผีฮ่องเต้นี่จึงได้ไม่สนใจพระสนมจิ่น กลายเป็นว่าเป็นการปกป้องความบริสุทธิ์ของเธอไปโดยปริยาย

สมัยโบราณที่นับถือผู้ชายรังแกผู้หญิง ผู้หญิงหิวตายเรื่องเล็ก ผิดประเพณีเรื่องใหญ่ ถึงแม้ต่อให้เป็นยุคที่เปิดกว้าง ผู้ชายหลายคนก็ยังดูถูกผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์แตกต่างกันไป เย่เทียนก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นเพราะรูปร่างหน้าตามีปัญหา เพื่อไม่ให้พวกเพื่อนหัวเราะเยาะ เพื่อแก้ไขความอดอยาก เป็นเพราะถูกกดดันจึงทำให้ไปยังสถานที่แบบนั้น

ตอนนี้ ตัวเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นโอรสสวรรค์ เป็นฮ่องเต้ปกครองใต้หล้า สถานะทางสังคมพลันก็ยกระดับเป็นชั้นบนสูงสุดแล้ว หุหุ

แต่ทว่า สนม พระสนมลี่ คนนั้นสามารถดึงดูดความสนใจของสนวังหลังกว่าสามพันคนมาไว้ที่ตัวเองคนเดียวได้ หรือว่าจะสวยกว่า พระสนมจิ่นเป็นร้อยเท่า แหะๆ พี่ไม่รีบ ขอแค่พี่ได้นั่งตำแหน่งนี้มั่นคงแล้วมีโอกาสได้กับพระสนมลี่คนนั้น

อยากจะนั่งบัลลังก์อย่างมั่นคง จะต้องรู้จักศัตรูที่อยู่ทั้งนอกและในให้ครบหมดถึงจะได้

ประเทศเทีนยเหยียนพื้นที่รอบด้านติดทะเล เรียกว่าประเทศเกาะ พวกเขามีกองทัพทางทะเลที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของแผ่นดินใหญ่ ใช้ปราการเป็นท้องทะเลที่กว้างใหญ่ ปกติจะมีแต่พวกเขาที่ยึดครอง ก่อกวนประเทศอื่น และประเทศบนแผ่นดินใหญ่ก็ล้วนจนปัญญากับพวกเขา ได้แต่เพิ่มความแข็งแรงของการป้องกันตามแนวชายฝั่งเท่านั้น

พวกโจรสลัดที่จับกลุ่มพวกนี้ บุกไปทำร้ายคนไปทั่ว ฆ่าคนวางเพลิง พฤติกรรมอันตราย เจ้าหน้าที่ป้องกันกันไม่หวาดไม่ไหว อยู่อาศัยเคลื่อนไหวกันอยู่บริเวณชายทะเล ทำให้ราษฎรเป็นทุกข์เป็นร้อนกันทุกหย่อมหญ้า

พื้นที่ทำจำกัดและสภาพอากาศทำให้ประชาชนของประเทศเทีนยเหยียนมีข้อจำกัดในการทำอุตสาหกรรมและกสิกรรม พวกเขาล้วนโกรธแค้นเคืองประเทศแผ่นดินใหญ่มาโดยตลอด

ตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโจวเป็นพื้นที่แห้งแล้งเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ ต้องข้ามผ่านทะเลแห่งความตายของทะเลทรายฮากันลา จึงจะสามารถเข้าสู่แผ่นดินสีเขียวอันอุดมได้ พื้นที่นั่นมีประชากรเลี้ยงสัตว์ไล่ทุ่งอาศัยอยู่เต็มไปหมด และก็เป็นที่อยู่ของประเทศจิน ขึ้นไปทางตอนเหนือเป็นพื้นที่หนาวเหน็บดินแดนแห่งหิมะ

หากจะว่ากันตามอาณาเขตพื้นที่ พื้นที่ของประเทศจินใหญ่ที่สุด แต่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายและดินแดนหิมะน้ำแข็ง เป็นดินแดนแห้งแล้งและเหน็บหนาว และก็เพราะอาศัยอุปนิสัยที่ห้าวหาญของพวกเลี้ยงสัตว์ไล่ทุ่งนี้เอง ที่ทำให้กองทัพม้าที่ดีที่สุดอยู่ที่ดินแดนที่ราบแห่งนี้

ประเทศจินมีฉายาว่าเป็นแหล่งรวมของนักรบกล้า กำลังทหารแข็งแกร่ง แต่เนื่องจากสภาพพื้นที่ทำให้พวกเขาขาดแคลนอาหารและอาวุธรวมถึงของสำคัญอื่น ๆ ดังนั้นประเทศจินจึงมองดินแดนที่ราบกลางราวเสือจ้องเหยื่อยังไงอย่างนั้น

ประเทศเย่น ประเทศฉู่สองประเทศพื้นที่เพียงแค่ครึ่งของประเทศโจว ส่วนใหญ่เป็นหุบเขา พื้นที่อันตราย เป็นที่ผลิตเหล็ก มีทหารกล้าของแผ่นดินใหญ่ที่มีความพร้อมมากที่สุด แม่ทัพใหญ่สิบอันดับที่มีอิทธิพลมากที่สุดในแผ่นดินใหญ่ ทั้งสองประเทศก็กินไปแล้วคนละสามอันดับ พวกเขาเหมือนกันคือมองดินแดนที่ราบกลางเหมือนเสือรอขย้ำเหยื่อ

ประเทศหาน จริงๆ แล้วเป็นประเทศที่มีแผ่นดินใหญ่น้อยที่สุด เป็นประเทศที่อำนาจอ่อนแอที่สุด เป็นประเทศรองของประเทศโจว ทุกปีจะต้องส่งเครื่องบรรณาการมาให้กับราชสำนัก สภาพภูมิศาสตร์เป็นลักษณะภูเขาและหุบเขาเป็นสถานที่ที่แร้นแค้น หากว่าไม่มีประเทศโจวคอยคุ้มครอง เกรงว่าน่าจะถูกยึดครองราชวงศ์ล่มสลายไปนานแล้ว

ข้อมูลเหล่านี้ ได้มาจากความจำของฮ่องเต้ที่ตายไป หากอยากจะทำความเข้าใจให้ละเอียดมากขึ้น เย่เทียนถ้าไม่ถามคนอื่น ก็ต้องเปิดหนังสืออ่าน นี่เป็นประเทศโจวความลำบากที่มาจากภายนอกของประเทศ

ประเทศจีนโบราณ ราชวงศ์ในประวัติศาสตร์ เพื่อแย่งชิงบัลลังก์ เรื่องเข่นฆ่ากันมีน้อยที่ไหน ฮ่องเต้ราชวงศ์ถังที่ปราดเปรื่องหลี่ซื่อหมิง ก็ไม่ใช่ว่ากำจัดพี่ชายตัวเองแล้วถึงขึ้นมาเป็นฮ่องเต้หรอกเหรอ ไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่แอบหวังในตำแหน่งฮ่องเต้ของตัวเองอยู่

ไม่ว่าจะมีใครหมายปองตำแหน่งฮ่องเต้หรือไม่ เย่เทียนรู้สึกว่า หากต้องการจะทำให้บัลลังก์มั่นคง จะต้องมีกำลังทหารที่พักดีกับเองเอาไว้ในมือ มิเช่นนั้น หากมีใครไม่รู้มาก่อกวนยกกำลังทหารมา แย่งชิงตำแหน่งฮ่องเต้ นั่นก็น่าอนาถแล้ว บัลลังก์และสาวงามก็จะกลายเป็นภาพมายาในความฝันไป

หากจะสร้างกองทหารที่พักดีกับตัวเองขึ้นมา แน่นอนว่าจะต้องหาแนวร่วมและทุนทรัพย์ ก่อนอื่นที่ติดถึงก็คือเงิน มีเงินทำอะไรก็สะดวก เป็นวิธีการสร้างแรงจูงใจให้กับทหารได้เป็นอย่างดี ของที่คุ้มค่าที่สุดในสายตาของพวกทหารก็คือเงิน พวกเขาจึงจะยอมถวายชีวิตให้อย่างซื่อสัตย์

ตอนนี้ที่พี่ต้องการก็คือเงินจำนวนมหาศาลที่จะเอามาจับจ่าย!

เย่เทียน ก็กระตือรือร้นที่จะเรียกเสนาบดีคลังเข้าเฝ้า สอบถามว่าเงินคงคลังของประเทศมีอยู่เท่าไหร่ คำตอบที่ได้ก็คือตอนนี้ท้องพระคลังมีเงินเก็บอยู่เพียง เงิน50หมื่นกว่าตำลึง

เย่เทียนตะลึงงันไป ประเทศโจวประเทศที่มีฉายาว่ามั่งคั่งที่สุดในแผ่นดินใหญ่ ท้องพระคลังกับมีเงินอยู่แค่ เงิน50หมื่นกว่าตำลึง และยังมีเงินตกเบิกของทหารตามเขตชายแดนอีกเป็นแสนที่ยังค้างไม่ได้จ่าย พื้นที่ทางเหนือมีภัยแล้ง ทำให้พืชผลได้รับความเสียหาย ราษฎรที่ได้รับผลกระทบอยู่ห่างไกล จึงจำต้องจ่ายเงินสำรอง เพื่อดับทุกข์ให้ราษฎร แต่เงินแค่ เงิน50หมื่นกว่าตำลึง มีประโยชน์อะไร

การคลังของประเทศโจว รายรับกลับเป็นลบ นี่มันเกินไปแล้วเหอะ

พี่ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่กลับเป็นแค่ยาจกคนหนึ่ง


ชีวิตจักรพรรดิของข้า
คุณสามารถใช้ปุ่มลูกศรซ้าย/ขวาเพื่อถอยหลัง/ไปข้างหน้า
ประเมิน: 10.0/10 จาก 15 โพล
loading...