ชีวิตจักรพรรดิของข้า
บทที่ 44 ประจบสอพลอฮ่องเต้ต้องทำให้แรงๆ
บทที่ 44 ประจบสอพลอฮ่องเต้ต้องทำให้แรงๆ
กู้ซีหยุนโมโหกล่าวว่า “เสี่ยวยู่วันนี้เจ้าเป็นยังไงเหรอ พูดครึ่งหนึ่งหยุดครึ่งหนึ่ง อยากทำให้ข้าโมโหตายหรือ?”
เสี่ยวยู่กล่าวแบบไม่กล้าคำหนึ่ง รีบพูดทีละเรื่องๆที่เกิดขึ้นในโรงน้ำชาหลิวเซียงออกมา เรื่องเหล่านี้ของเย่เทียน เขาก็ได้ยินมากับคนอื่นที่พูดคุยกันตอนที่เขาไปซื้อของให้คุณหนู เขาคือคนรับใช้ติดตามของ กู้ซีหยุนย่อมรู้เรื่องที่เย่เทียนอยากร่วมมือกับคุณหนูบ้านเขาโดยปริยาย กับเรื่องของเย่เทียนต้องใส่ใจเป็นพิเศษอย่างแน่นอน
การซุบซิบนินทาคือหนึ่งต่อสิบ สิบต่อร้อย ร้อยต่อพัน ยิ่งเล่าต่อยิ่งบานปลาย ยิ่งส่งต่อยิ่งผิดเพี้ยนเย่เทียนถูกกล่าวเวอร์จนกลายเป็นเทพบุ่นเชียงลงมาเกิด กามเทพกลับชาติมาเกิด แต่ขอให้เป็นผู้หญิงล้วนอดใจไม่ได้ที่จะชอบเขา…
ตอนเสี่ยวยู่พูดถึงเรื่องที่ริเริ่มสร้างสรรค์รูปแบบตัวอักษรสิง กู้ซีหยุนสีหน้าตกตะลึงปรากฏบนใบหน้า ไม่มีลมไหนเลยจะมีคลื่น ถนนสายหลักและตรอกเล็กซอยน้อยทุกๆที่ล้วนเล่าลือเช่นนี้ คุณชายเย่คนนี้ความรู้ท่วมหัว เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถมากจริงหรือ?
แต่ว่า อะไรนะกามเทพกลับชาติมาเกิด เขาอดไม่ได้ พุ่ง เสียงหัวเราะออกมา โมโหกล่าวว่า “อะไรนะกามเทพกลับชาติมาเกิด ช่างพูดเหลวไหล”
เสี่ยวยู่กลับพูดว่า “คุณหนู เป็นเรื่องจริงนะ ยังมีคนเรียบเรียงเป็นเรื่องราว เรียกว่า....อืม《อู่เฟิ้งเฉาหยาง》ที่พูดถึงก็คือเรื่องสนุกของคุณชายเย่กับโออิรันทั้งสี่ในโรงน้ำชาหลิวเซียงและยังมีป๋ายหลิงล่ะ”
“อู่เฟิ้งเฉาหยางหรือ?” บนใบหน้าของกู้ซีหยุนปรากฏสีหน้าที่ค่อนข้างแปลกประหลาดออกมา ฮึ หนึ่งเสียง ที่ค่อนข้างไม่พอใจ “เขาช่างมีฝีมือจริงนะ ครึ่งวันก็ติดพันหญิงยั่วยวนทั้งห้าคนนั้นได้แล้ว
เสี่ยวยู่อึ้งไป ดวงตางดงามหนึ่งคู่จ้องมองอยู่บนใบหน้าคุณหนู บนใบหน้างดงามปรากฏสีหน้าที่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ คุณหนูเป็นอะไรหรือ? น้ำเสียงการพูดทำไมทำให้คนรู้สึกมีกลิ่นอายความหึงหวงฝาดๆอยู่? หรือว่า คุณหนูก็ชอบคุณชายเย่ไปแล้วหรือ?
กู้ซีหยุนไม่ได้สังเกตถึงสายตาที่แปลกประหลาดของเสี่ยวยู่แม้แต่นิด เขาก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่ว่าแม้เรื่องราวล้วนออกมาแล้ว เรื่องนี้แปดเก้าไม่ห่างไกลจากสิบห่างกันไม่มากแล้ว ไม่รู้เป็นอย่างไร อยู่ดีๆในใจก็เกิดความรู้สึกถึงการว่างเปล่าสูญเสียขึ้นมา ดูเหมือนทำของที่สำคัญหล่นหายไป ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายเล็กน้อย
ในคืนนี้ เขาพลิกไปพลิกมายากที่จะนอนหลับ ในช่วงเวลาที่สะลึมสะลือ จึงรู้สึกตัวว่าฟ้าสว่างจ้าแล้ว
เดิมทีรู้สึกง่วงนอนนิดหน่อย อยากนอนตื่นสายบ้าง แต่ในใจดูเหมือนมีของอะไรติดไว้ ทำให้เขารู้สึกไม่สบาย
หลังจากหวีผมอย่างตั้งใจ เขาพาเสี่ยวยู่ออกไปข้างนอก มุ่งตรงไปโรงน้ำชาส้งจี้ทางเหนือของเมือง《อู่เฟิ้งเฉาหยาง》ก็คือผู้เฒ่าหลี่ที่อาศัยอยู่ โรงน้ำชาส้งจี้ตลอด เขาอยากจะลองฟังเรื่องสนุกโรแมนติกของคนบางคน
มาถึงโรงน้ำชาส้งจี้ กู้ซีหยุนจึงรู้สึกตัวว่า ในโรงน้ำชามีคนเบียดเสียดเต็มไปนานแล้ว ล้วนนั่งรอผู้เฒ่าหลี่เล่าเรื่อง《อู่เฟิ้งเฉาหยาง》
ในยุคนี้ คนที่ชอบการซุบซิบนินทามีอยู่มากมาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องสนุกโรแมนติกล่ะ? ชื่อของโออิรันทั้งห้าในโรงน้ำชาหลิวเซียงดังทั่วเมืองหลวง มีใครไม่รู้จักหรือ? เรื่องสนุกโรแมนติกแบบนี้ ทำให้คนพูดคุยด้วยความสนใจ
โชคดีว่ากู้ซีหยุนมีเงิน ใช้เงินห้าชั่ง ก็ซื้อที่นั่งดีๆได้ที่หนึ่ง ชิมชาไปด้วย ฟังผู้เฒ่าหลี่เล่าเรื่อง《อู่เฟิ้งเฉาหยาง》ไปด้วย
เรื่องสนุกโรแมนติกของคุณชายเย่กับโออิรันชื่อดังทั้งห้า ผู้เฒ่าหลี่พูดอย่างมีเหตุผล ดูเหมือนว่าเขาก็คือคุณชายเย่ตัวจริง และแขกที่นั่งอยู่ยิ่งฟังจนอย่างเพลิดเพลินเต็มที่ ต่างคนต่างปรบมือว่าดี ในใจของกู้ซีหยุนกลับเต็มเปี่ยมด้วยความรู้สึกอารมณ์เสีย แต่อยู่ภายใต้การขับเคลื่อนของจิตใจที่อยากรู้อยากเห็น เขายังคงยืนหยัดฟังไปแล้วเป็นเวลานาน
ฟัง《อู่เฟิ้งเฉาหยาง》ของผู้เฒ่าหลี่จบกู้ซีหยุนให้คนไปสืบข่าวทุกที่ เย่เทียนริเริ่มสร้างสรรค์《เยาะเย้ยกับชีวิต》ในโรงน้ำชาหลิวเซียงก็ได้เล่าสืบต่อกันออกไปแล้ว คนมากมายแย่งชิงฉบับคัดลอก เอากลับไปเก็บสะสมไว้ในบ้าน ชายหนุ่มหลายคนยิ่งคัดลอกรูปแบบตัวอักษรสิง ในเวลาอย่างรวดเร็ว รูปแบบตัวอักษรสิงเล่าสืบต่อกันอย่างกว้างขวาง
กู้ซีหยุนใช้เงินสิบชั่ง ซื้อฉบับคัดลอกกับโน้ตเพลงของ《เยาะเย้ยกับชีวิต》มาได้ นี่จึงกลับบ้านอย่างพอใจ
**************
วังหลวง พระตำหนักจินหลวน
เย่เทียนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร น้อมรับการกราบไหว้ของขุนนางบุ๋นและบู๊ทั้งหลาย หลังจากนั้นจัดการเรื่องราชการ
วันนี้ถือว่าเรื่องดีต่อๆกัน โม่เป่ยส่งพระราชสาส์นที่เพิ่มความเร็วแปดร้อยลี้มาต่อๆกัน หัวหน้าเหล่าขุนนางจางถิงเตินอาวุโสจางถือเอาสงบศึกเป็นนาม ถ่วงกองทัพใหญ่ของประเทศจินเจ็ดวันได้สำเร็จ ปัจจุบันนี้ถอยกลับไปด่านเจิ้งหยางอย่างปลอดภัยแล้ว
หลังจากฉางชิงซาน เจ้าพระยาอู๋กงรีบเร่งไปถึงด่านอันตรายด่านเจิ้งหยางรวบรวมกองทัพใหญ่ทันที แยกทหารเป็นหลายทาง ตามแผนการสู้รบที่กำหนดไว้ ทางหนึ่งแกล้งทำเป็นจู่โจมด่านหยุนหยาง ทางหนึ่งแก้ไขด่านหยุนอู่ที่ถูกโอบล้อมไว้ อีกทั้งยังสำเสร็จในการนำราษฎรทั้งหลายที่อยู่นอกด่านอันตรายด่านเจิ้งหยางถอยกลับด่านใน
ธูลีชื่อ จอมทัพของประเทศจินพลาดโอกาส แค้นอับอายจนโกรธ สั่งการกองทัพโจมตีด่านอันตรายด่านเจิ้งหยางอย่างบ้าคลั่งฉางชิงซาน เจ้าพระยาอู๋กงเฝ้าคุ้มครองด่านอันตราย นำกองทัพราษฎรทั้งเมืองต่อสู้อย่างสุดกำลัง ขับไล่การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของกองทัพจินหลายสิบครั้ง ทั้งสองฝ่ายล้วนมีการสูญเสีย แต่การป้องกันของด่านอันตรายด่านเจิ้งหยางแข็งแกร่งมากไม่สามารถตีแตกได้ง่าย
เขตเภทภัยทางเหนือ ข้าหลวงต่างพระองค์ถังเจียงหมิงถือกระบี่อาญาสิทธิ์คอยตรวจสอบและกำกับดูแล หน่วยงานราชการในแต่ละเมืองเปิดยุ้งฉาง สงเคราะห์ผู้ประสบภัยอย่างเต็มพลัง ไม่กล้าประมาทแม้แต่นิด
ตามฎีกาที่ ถังเจียงหมิงส่งกลับมา งานสงเคราะห์ผู้ประสบภัยในการล้อมรอบของเขตเภทภัยทำได้ดีมาก ผู้ประสบภัยที่อพยพส่วนมากได้รับการตั้งถิ่นฐานใหม่ชั่วคราว ตอนนี้เขากำลังเดินทางไปที่เมืองที่ประสบภัยหนักที่สุดหลายเมือง
นี่พูดได้ว่าเป็นเรื่องดีต่อๆกันเย่เทียนรู้สึกพอใจอย่างยิ่ง ชื่นชมไปสักพัก เปลี่ยนเรื่องถามว่า “ขุนนางทั้งหลาย ข้างนอกเล่าลือถึงคุณชายถนอมดอกไม้มีความสามารถที่เป็นไปโดยธรรมชาติในฟ้าดิน เสาหลักของประเทศ มีเรื่องนี้จริงหรือ?”
“ฝ่าบาท มีเรื่องนี้จริงพ่ะย่ะค่ะ” มีปิงปู้ซ่านซูตู๋กูจิ้น ออกมาทูลกล่าวว่า “ข้าพระองค์ยังได้คัดลอก《เยาะเย้ยกับชีวิต》ของคุณชายถนอมดอกไม้ มาถวายกับฝ่าบาทเป็นพิเศษ”
เป็นไปโดยธรรมชาติในฟ้าดิน นั่นคืออธิบายถึงความสามารถพิเศษ เป็นระดับที่เสนาบดีจึงมี แม้ว่าคุณชายถนอมดอกไม้คนนั้นมีความสามารถยิ่งใหญ่ แต่ก็ยังไม่พอในระดับนี้ นักกวีชื่อดังคุณธรรมสูงส่งที่ยิ่งใหญ่บริสุทธิ์ที่เป็นข้าราชการอยู่ในราชสำนัก ไม่ใช่จอหงวน(อันดับที่หนึ่งในการสอบขุนนาง) ก็เป็นปังเหยียน(อันดับที่สอง) ถ่านฮัว(อันดับที่สาม)ความรู้ความสามารถอย่างมาก ความรู้ท่วมหัวล่ะ?
ขุนนางใหญ่ทั้งหลายต่างคนต่างสาปแช่งอยู่ในใจ ใต้เท้าตู๋กู ช่างไม่ละอาย แย่งเอาใจฮ่องเต้ไปก่อนก้าวหนึ่ง ยามปกติแม้แต่ตดก็ไม่ตด ระยะนี้ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงบ่อย แย่งกันทำตัวเด่น
มีขันทีนำฉบับคัดลอกที่ปิงปู้ซ่านซูตู๋กูจิ้นทูลถวายมาให้ฮ่องเต้ เย่เทียนเสแสร้งแกล้งทำท่าดูไปสักพัก หลังจากนั้นสั่งขันทีน้อยส่งไปข้างล่างให้ขุนนางทั้งหลายดู
ปิงปู้ซ่านซูตู๋กูจิ้น กล่าวว่า “ฝ่าบาท เพลง《เยาะเย้ยกับชีวิต》ล้มความรู้เกี่ยวกับจังหวะที่รู้จัก ทำนองแปลกใหม่ไหลลื่น พลานุภาพกล้าแข็งทรงพลัง ไพเราะสละสลวยดึงดูดใจ พูดได้ว่าเป็นเพลงเทพตะลึงโลก รูปแบบตัวอักษรสิงตะขอเหล็กพู่กันเงิน แกร่งกร้าวทรงพลัง มีสไตล์อย่างยิ่ง เพียบพร้อมด้วยท่าทางของผู้ยิ่งใหญ่แล้ว กระหม่อมต่างชื่นชมยอมรับ คุณชายถนอมดอกไม้พูดได้ว่าเป็นผู้วิเศษที่หายากในโลกวันนี้ในร้อยปียากที่จะออกมาหนึ่งคน
ตระกูลตู๋กูเป็นตระกูลใหญ่ ชัดเจนเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงโดยปริยาย เขาก็ยังเป็นพ่อตาฮ่องเต้ของราชวงศ์ปัจจุบัน ปิงปู้ซ่านซูออกเสียงเข้าข้างลูกสาวสุดที่รักตู๋กูจิ่นเข้าเป็นนางในตำหนักบูรชาอย่างสูง ต่อเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในตำหนักหลัง ก็ค่อนข้างเข้าใจดี
พูดคุยอย่างละเอียดหลายครั้งกับลูกสาวสุดที่รัก รวมกับการเปลี่ยนแปลงในระยะนี้ของราชสำนัก เขาสามารถแน่ใจทั้งหมด ฮ่องเต้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แค่ดูจากเขาจัดการงานราชการในราชสำนักบางอย่างด้วยความชาญฉลาดเด็ดเดี่ยว ค่อนข้างมีการปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยมและรวดเร็วของกษัตริย์ผู้ทรงปรีชาญาณหนึ่งรุ่น
แน่นอน ก็ยังมีนิสัยบางอย่างที่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง ตรงกันข้าม ยิ่งมีท่าทีที่มากกว่าเก่า นั่นก็คือบ้ากาม แม้กระทั่งมีการพาลหาเรื่องเล็กน้อย
เป็นฮ่องเต้ของประเทศ ถึงขนาดไปหอนางโลมเที่ยวผู้หญิง ลุ่มหลงอบายมุข พาลหาเรื่องไปทั่ว ยังนับว่าดี ไม่ได้พาลหาเรื่องอะไรที่เกินความเหมาะสมน่าอับอายออกมา
เขายังไม่เข้าใจฮ่องเต้ว่าแสดงเป็นคุณชายถนอมดอกไม้คนนี้มีความหมายเช่นไร แค่อาจจะทำเพื่อได้รับการหัวเราะจากใจของหญิงงาม แม้ว่ามีการพาลหาเรื่องเล็กน้อย แต่ว่า จากทั้งหมดมาพูด ต่อกับเรื่องราชการในราชสำนักไม่มีผลสะท้อนอะไรเลย
เขาก็นึกไม่ถึงว่ายามปกติโง่เขลาไร้ความสามารถ เพียงแค่ดื่มเหล้าเป็นความสุขได้ ฮ่องเต้ที่บ้ากามไร้ขอบเขตกลับมีความสามารถทางวรรณกรรมตะลึงโลกเช่นนี้ ทำให้เขาแว่นตาตกอย่างรวดเร็วจริงๆ
ไฮ่ ในสมัยนี้ไม่มีแว่นตา ลูกตาตกหล่นก็น่าจะมี
ตู๋กูจิ้นในเวลานั้นเดาไม่ออกว่าฮ่องเต้เอาคุณชายถนอมดอกไม้คนนี้มามีความหมายเช่นใด แม้ว่าไม่ค่อยพอใจต่อการบ้ากามของฮ่องเต้ โชคดีว่าไม่ได้เย็นชาต่อจิ่นเอ๋อ เพียงแค่จิ่นเอ๋อได้รับการโปรดปราน เขาจะเอาสนมเท่าไรก็ไม่เป็นไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตำหนักหลังของฮ่องเต้ สามพระตำหนักหกหมู่เรือน ๗๒ พระสนมก็เป็นเรื่องที่ธรรมดามาก
ในเมื่อฮ่องเต้พาลหาเรื่อง อยู่ภายใต้ที่ไม่ทำร้ายหน้าตาศักดิ์ศรีของประเทศเป็นหลัก เขาทำตามพระประสงค์ของฮ่องเต้ แอบประจบสอพลอฮ่องเต้อย่างแรง ทำแล้วมีความสุขไฉนจะไม่ไปทำล่ะ?
ชีวิตจักรพรรดิของข้า