ชีวิตจักรพรรดิของข้า

บทที่ 6 เกิดมาพร้อมความสวย

บทที่ 6 เกิดมาพร้อมความสวย

เงินล้านหนึ่งตำลึง ต่อให้เป็นขุนนางตระกูลใหญ่ก็ไม่อาจจะควักออกมาจ่ายได้ในทันที นอกจากขุนนางละโมบ ขุนนางที่ซื่อสัตย์ภักดีอย่างเขา อย่าว่าแต่เงินล้านหนึ่งตำลึง แค่สองล้านก็รวบรวมได้ไม่พอ

“ฝ่าบาท....” หลี่จิ้น ไม่รู้แน่ว่าทำไมฮ่องเต้จึงได้มีความคิดแปลกประหลาดเช่นนี้ หรือว่าหิวเงินจนเป็นบ้าไปแล้ว เขารู้สึกว่าสมองเขาหมุนไม่ทันแล้ว กล่าวอย่างอึกอักว่า “ฝ่าบาท...ข้า....ข้ากระหม่อม....”

เขาเดาได้ถูกต้องทุกอย่าง ฮ่องเต้ตัวปลอมนี้คิดแต่เรื่องเงินจนเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ กำลังคิดหาวิธีร้อยแปดประการว่าทำยังไงจึงจะได้เงิน

เย่เทียนหัวเราะร่ากล่าวว่า: “อ้ายชิงหลี่(อ้ายชิง คำที่ฮ่องเต้ใช้เรียกขุนนาง) เจ้าเป็นดอกไม้ของประเทศ.....เอ่อ เป็นเสาหลักของประเทศ เป็นข้าราชการตงฉินที่หาได้ยาก ข้าไม่อยากขาดเจ้าไป เรื่องลาออกให้พักไว้ก่อน มิเช่นนั้น ฆ่าล้างตระกูล ประหารเจ็ดชั่วโคตร!”

“พ่ะย่ะค่ะ........” หลี่จิ้น ปาดเหงื่อบนหน้าผากไม่หยุด สวรรค์ ลาออกก็มีโทษ ฮ่องเต้องค์นี้กล่าววาจาเลอะเลือน ไม่กี่วันมานี้ประหารขุนนางไปไม่น้อย เกรงว่าจะฆ่าคนติดลมซะแล้ว ยังไม่ทันทำอะไรก็จะฆ่าล้างตระกูล เฮ้อ. หากเป็นแบบนี้ต่อไป ประเทศโจว ได้ถึงกาลอวสานแน่

เย่เทียน ที่คิดเรื่องเงินจนจะเป็นบ้าโบกไม้โบกมือ แสดงว่าท่าว่าให้เขาออกไปได้แล้ว เขาหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้ คิดเรื่องเงินทั้งวันว่าทำอย่างไรจึงจะได้เงินมาไว้ใช้โดยเร็ววัน

ขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นในราชสำนัก แน่นอนว่าต้องมีขุนนางละโมบอยู่แน่นอน เพียงแต่ว่า จะต้องมีหลักฐานความละโมบของพวกนั้นเสียก่อน ประกอบกับตอนนี้เขาไม่อาจรู้ได้ว่ามีคนมุ่งหวังในบัลลังก์ของเขาหรือไม่ การหาเงินและสร้างกองกำลังทหารได้แต่ต้องแอบดำเนินการเป็นดีที่สุด

เขามีวิธีหาเงินให้ได้ก้อนใหญ่ แต่อาจจะต้องใช้เวลานานซักหน่อย แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลารอแล้ว

แม่เอ้ย วิธีการอะไรที่ได้เงินเร็วที่สุดกันหล่ะ

เย่เทียนเอนพิงพนักเก้าอี้ สองเท้าไขว้กันอยู่บนโต๊ะ ไม่ได้มีท่าทางเหมือนโอรสสวรรค์แม้แต่น้อย

ในตอนที่กำลังคิดจนปวดสมองว่าวิธีไหนจะหาเงินได้เร็วที่สุดอยู่นั้นเอง ด้านนอกหัวหน้าขันทีซูจื่อหลุนก็ขานเสียงอ่อนเสียงหวานขึ้นจากนอกประตู “ฝ่าบาท พระสนมพระสนมลี่ขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”

แววตาของ เย่เทียน วาวโรจน์ กลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ “ให้นางเข้ามา”

ในห้วงความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อของฮ่องเต้ผี กว่าครึ่งเป็นความทรงจำเกี่ยวกับพระสนมลี่ ดูเพียงแต่สาวงามหยาดฟ้ามาดินที่แต่งเข้าวังมาเป็นปี ยังคงบริสุทธิ์ ก็เพราะพระสนมลี่ เป็นที่ต้องตาต้องใจมากกว่า

แท้จริงแล้ว ฮ่องเต้ผีเหมือนว่าไม่ได้แต่งตั้งพระสนมซักกี่คน หลังจากฮองเฮาสวรรคต วังหลังทั้งหมดก็ว่างเปล่า ในความทรงจำเหมือนจะมีแค่ พระสนมลี่และพระสนมจิ่น นอกจากนั้นก็ไม่มีสนมคนอื่น

“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท”

เสียงหวานหยดพลันดังขึ้น เย่เทียน ที่กำลังใช้ความคิดก็กระแอมไอออกมาอย่างเสียไม่ได้ แม่เจ้าโว้ย แค่ได้ยินเสียงอ่อนนุ่ม นุ่มนิ่ม แฝงไปด้วยความเย้ายวน ก็ทำให้คนรู้สึกเหมือนโดนดูดวิญญาณ หากว่าเป็นเสียงเรียกปลุก ไม่ยิ่งหนักกว่านี้เหรอ

กลุ่มผ้าสีแดงลอยผ่านข้ามา กลิ่นหอมกระทบนาสิก ทำให้คนลุ่มหลง

พระสนมลี่ คิ้วโด่งดังจันทร์เสี้ยว ตารูปดอกท้อที่แจ่มใสราวกับทะเลสาบลึกที่ล่อหลอกให้คนจมอยู่ในนั้นจนขาดใจ ผ้าสีชมพูปกปิดหน้าอกที่ตั้งชัน รอยหน้าอกที่ชิดกันแฝงความเย้ายวนชวนให้คนหลงใหลลุ่มหลงต่อให้ต้องขาดใจตายอยู่ตรงนั้นก็ยินดี กระโปรงสีแดงที่บางราวปีกจักจั่นยิ่งขับให้ผิวขามงามราวคริสตัลโปร่งแสงและเอวที่คอดกิ่วก้นที่งามงอน เสน่ห์ที่ออกมาจากด้านในชวนให้มัวเมา

เสียงอึกออกมา เย่เทียน กลืนน้ำลายอึกใหญ่ และถูจมูกอย่างแรงตามนิสัยที่คุ้นเคย แม่เจ้าโว้ย มิน่าล่ะฮ่องเต้ผีนั่นถึงตายไปแล้วก็ไม่ลืม พระสนมลี่ตลอดทั้งร่าง อากัปกิริยา รอยยิ้ม ล้วนแต่มีพลังดึงดูดวิญญาณให้หลงใหล

เกิดมาพร้อมความสวย แม้แต่ผู้ชายที่ร่างกายปกติก็ยกที่จะทานเสน่ห์ได้!

“ฝ่าบาท พระองค์จำหม่อมฉันไม่ได้หรือ” พระสนมลี่ ท่าทีอ่อนหวาน สีหน้าปรากฏรอยยิ้มกระชากใจออกมา ผนวกกับความถือดีบางส่วน

เธอมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างมาก ผู้ชายบนโลกที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ มีแค่ไม่กี่คน แม้แต่พวกขันทีก็ยังเคยตกหลุมพิศวาส

แม่เจ้าโว้ย ดูเจ้าฮ่องเต้ผีนั่นผิดไปจริงๆ เย่เทียนกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ยื่นมือออกไปโอบกอด ปากกล่าวยิ้มๆ “พระสนมที่รัก ขอข้ากอดเจ้าหน่อย”

“หม่อมฉันยินดีที่พระวรการแข็งแรง” พระสนมลี่ ถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่าวเป็นธรรมชาติ ทำท่าทางแสดงความเคารพตามประเพณีอย่างอ่อนหวาน ซึ่งก็พอดีกับการเลี่ยงอ้อมกอดของ เย่เทียน

“เอ่อ ข้ายังประชวรอยู่” เย่เทียน หัวเราะ ก้าวออกไปยืนด้านหน้า ยื่นมือไปกอด “พระสนมที่รัก ขอให้ข้าได้รักถนอมเจ้าหน่อยเถิด”

“ฝ่าบาททำไมรีบร้อนแบบนี้เจ้าคะ” พระสนมลี่ แย้มยิ้มหัวเราะ บิดเอวกิ่ว ก็ล่องลอยมาอยู่ด้านข้างลำตัวของ เย่เทียน ยกผ้าไหมที่อยู่ในมือ ลอยพาดผ่านหน้าของเขาไป

เย่เทียน เดิมทีก็ไม่มีภูมิต้านทานเสน่ห์ของสาวที่ยั่วยวน แค่เธอหยอกล้อเล็กน้อย กลิ่นหอมรวยรินเข้าจมูก แก้มพลันคันเล็กน้อย ก็บังเกิดอารมณ์ที่ยากจะต้านทาน เขาตวัดมือกลับไปกอด กล่าวอย่างแย้มยิ้มว่า “สาวสวย มา มาให้ข้าได้ทะนุถนอมเจ้าหน่อย”

“ฝ่าบาทเพิ่งฟื้นจากอาการประชวรควรจะต้องพักผ่อน หม่อมฉันยังหวังให้ฝ่าบาทเอ็นดูหม่อมฉัน” พระสนมลี่ หมุนเอว เคลื่อนกายอย่างพริ้วไหวไปด้านหลังของเย่เทียน ก็ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจที่จะเบี่ยงหลบอ้อมกอดของ เย่เทียน

เอ๋ พลิ้วเชียวนี่

ถูกหยอกเย้าจนเลือดในกายร้อนรุ่ม เย่เทียนหมุนตัวเตรียมตะครุบ เห็นตาแดงที่ถลึงมอง เปิดไหล่กว้างออก ท่าทางถมึงถึงโผไปทาง พระสนมลี่

แม่เจ้าโว้ย พี่ไม่เชื่อ ว่าจะจับเจ้าไม่ได้ รีบมารับโทษเดี๋ยวนี้

“โถ่เอ๋ย ฝ่าบาท.....” พระสนมลี่ หัวเราะพลางบิดตัวหนีไปเร็วราวฟ้าผ่า กล่าวเสียงยานคางว่า “ฝ่าบาท ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย....”

คำพูดของเธอ โจ่งแจ้งว่าตอนนี้ยังเข้า หมายความว่าอย่างไร เดี๋ยวคืนนี้ค่อยว่ากันเหรอ

เย่เทียน โผเข้าไปจับหลายครั้ง แม้แต่ปลายเสื้อก็ไม่โดน ขบเขี้ยวเคี้ยวฝันอย่างห้ามไม่ได้ กล่าวด้วยเสียงกัดฟันกรอดว่า “ทำไมต้องรอถึงกลางคืน พี่......ข้าตอนนี้อยากกินเจ้า!”

“ฝ่าบาท พวกขุนนางอำมาตย์อยู่ด้านนอกรออยู่นะเพคะ” พระสนมลี่ ยิ้มเย้าหลบหนีกรงเล็บหมาป่าของเขาไป ทั้งตัวราวกับปลาไหล เคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลผิดปกติ

เย่เทียน ออกแรงไปหลายส่วน ถึงได้จับถูกผ้าแดงบนบ่าของเธอ เขาออกแรงกระชากอยากจะดึงทั้งร่างมาอยู่ข้างตัว

พระสนมลี่ กลับม้วนตัว ปล่อยผ้าสีแดงบนบ่าออก กล่าวเสียงเย้ายวนว่า “ฝ่าบาท พระวรกายต้องการการพักผ่อน ยังมีเวลาอีกมา เรื่องบ้านเมืองสำคัญที่สุดเพคะ”

“เจ้า....” เย่เทียน จับผ้าที่เย้ายวนให้คนหลงใหลจากกลิ่นหอมไว้แน่น แม่เอ้ย ทำไมพริ้วขนาดนี้

“ฝ่าบาท หม่อมฉันคืนนี้จะอยู่ที่ตำหนักรอรับใช้ฝ่าบาทเพคะ” พระสนมลี่ พลันโผเข้ามา รีบกล่าวจบหนึ่งคำรบ จากนั้นก็เป่าลมใส่หูเขาเบาเบา จากนั้นอาศัยที่แขนทั้งสองข้างของเย่เทียนยังไม่ได้ประกบเข้าหากัน ก็รีบหนีไปจากอ้อมกอดเขา

“ฝ่าบาท เรื่องบ้านเมืองต้องมาก่อน หม่อมฉันทูลลา” พระสนมลี่ ย่อกายแสดงความเคารพ ก่อนจากไปก็หันกลับไปมองด้วยสายตาเย้ายวน “ฝ่าบาทอย่าลืมนะเพคะ อย่าให้หม่อมฉันต้องรออย่างเดียวดาย”


ชีวิตจักรพรรดิของข้า
คุณสามารถใช้ปุ่มลูกศรซ้าย/ขวาเพื่อถอยหลัง/ไปข้างหน้า
ประเมิน: 10.0/10 จาก 15 โพล
loading...