บัญชามังกรเดือด

ฟ้าสว่างแล้ว

เซวเจี้ยนผู้ซึ่งประสบกับความทุกข์ทรมานในกลางดึก สิ่งที่เขาได้รอมาไม่ใช่หัวของฉินเทียน แต่กลับเป็นหัวของฉีลิ่ว

“เถ้าแก่เซว คุณฉินเป็นคนที่พวกคุณไม่สามารถล่วงเกินได้ ”

“ลูกชายของคุณกล้าล่วงละเมิดภรรยาของคุณฉิน ถึงตายก็ไม่สามารถชดใช้ได้ ”

“ไม่อยากให้ตระกูลเซวถูกทำลาย ตอนนี้ก็หยุดมือ แล้วไปจากหลงเจียงซะ ”

“นี่ เป็นคำแนะนำสุดท้ายที่ข้าเฉียงหลง สามารถให้คุณได้ ”

“หลังจากพูดตบ เฉียงหลงก็จากไป

เขายังมีเรื่องบางอย่างที่ต้องทำ ฉีลิ่วควบคุมสถานบันเทิงในหลงเจียงมากกว่าร้อยแห่ง

ลูกน้องทั้งหมดถ้ารวมกัน ก็มากกว่าพันคน

เมื่อคืนผู้คนหลายร้อยคนนั้น เป็นเพียงหนึ่งในสามก็เท่านั้น

ดังนั้น เฉียงหลงยังคงต้องจัดการกับงานที่รับช่วงต่อ

ถ้าไม่ยอม ก็สู้ไป

โชคดี ที่เขามีชื่อเสียงมากในอาณาจักรใต้ดินของฉีลิ่ว ตอนนี้ฉีลิ่วตายแล้ว และเขาก็ได้รับความไว้วางใจ

จึงไม่ได้เสียพลังงานมากเกินไป ก็เอาชนะทั้งหมดได้แล้ว

ตอนนี้ โลกใต้ดินของหลงเจียง ได้เข้าสู่ยุคสมัยของเฉียงหลงอย่างเป็นทางการแล้ว

และในใจของเฉียงหลงเขารู้ว่าตัวเองเป็นเพียงตัวแทนของฉินเทียนเท่านั้น

ฉินเทียนเก็บเขาไว้ไม่ฆ่า ก็เพียงเพื่อจะให้เขาเล่นบทบาทนี้

เขาตั้งชื่อมันว่า “แก๊งเทียนหลง” เทียน ก็คือคำว่าเทียนของฉินเทียน

ในฐานะหัวหน้าแก๊งรุ่นแรก เฉียงหลงปฏิบัติตามคำสอนของฉินเทียน และกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดก็ถูกตั้งขึ้น

ไม่อนุญาตให้กดขี่คนดี ผู้บริสุทธิ์ และรบกวนประชาชน ไม่อนุญาตให้พี่น้องต่อสู้ และใช้มีดตามท้องถนน ไม่อนุญาตให้ทรยศพี่น้องและทรยศต่อองค์กร

หากมีการละเมิด จะมีมีดสามเล่มและหกรู มีดหกเล่มและสิบสองรู มีดเก้าเล่มและสิบแปดรู

　　……

หลังจากฟังคำพูดของเฉียงหลงแล้ว เซวเจี้ยนก็ไม่อยากเชื่อเป็นเวลานาน

เดิมทีเขาคิดว่า ฉินเทียนเป็นเพียงหนามที่ถูกยั่วยุโดยเถียหลินเฟิง และคนอื่น ๆ บทบาทเล็ก ๆ แบบนี้ ฉีลิ่วสามารถเอาชนะได้

แต่ไม่คิดเลยว่า ไม่เพียงแต่พรากชีวิตของฉีลิ่วไป แต่ยังเปลี่ยนโลกใต้ดินของหลงเจียนด้วย

คราวนี้ เหตุผลที่ตระกูลเซวมีความมั่นใจที่จะกลับไปหลงเจียง และทำโครงการที่มีชื่อเสียง ก็เพราะไพ่ตายใต้ดินของฉีลิ่ว

ตอนนี้เซวเจี้ยนกลับรู้สึกว่า ด้านล่างมันค่อนข้างว่างเปล่า

เขายังคงเชื่อว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉินเทียนทำคนเดียว

จะต้องเป็นเถียหลินเฟิง！

“บัดซบ ฉันจะไม่จบกับพวกแกแน่ ! ”

เถียหลินเฟิง พวแกรอก่อนเถอะ

“ฉันจะให้พวกแกไม่ตายดีแน่ ! ”

และเขาก็โทรศัพท์ออกไปทันที

มีการเปลี่ยนแปลงในหลงเจียง ยกเลิกภารกิจของคุณ

“เร็ว !

ชุยหมิง เป็นขอทานที่เขาพากลับมา ระหว่างเดินทางไปทำธุรกิจในต่างประเทศ

เพื่อเฝ้าติดตามฉีลิ่ว

อันที่จริงบทบาทที่แท้จริงของชุยหมิง คือการแอบทำงานให้กับเซวเจี้ยน

ตัวอย่างเช่น การกำจัดคู่แข่งทางธุรกิจ

“เถ้าแก่เซว ภารกิจของฉันกำลังจะเสร็จสิ้นแล้ว ”

ทำงานนี้เสร็จแล้ว ฉันและคุณ จะเคลียร์ทั้งสองอย่าง

เซวเจี้ยนโกรธจัด จนพูดเสียงดัง “ลูกชายของฉันถูกคนทำร้ายจนพิการแล้ว ！”

“ฉีลิ่วถูกคนฆ่าตายแล้ว ! ”

แกไม่ได้ยินเหรอ

และจากนั้นก็พูดอย่างเย็นชา

เซวเจี้ยนวางโทรศัพท์ลง

ในเวลานี้ แพทย์ในชุดขาวหลายคนรีบเข้ามา

พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับเชิญจากเซวเจี้ยนมาจากเมืองหลวงในชั่วข้ามคืน เดิมทีเขาต้องการส่งลูกชายไปโรงพยาบาลที่ดีในเมืองหลวง แต่รูปลักษณ์ของเซวเหรินนี้ เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไปแล้ว

“ศ.หวาง เร็วเข้า ! ”

“จะต้องช่วยลูกชายผมให้ได้นะ ! “

เขาก็ถอดหน้ากาก และพูดเพียงว่า

“อาการหนักเกินกว่าจะช่วยไว้ได้ “

เซวเจี้ยนโง่เขลาไปในทันที

“ลูก พ่อรู้ว่าลูกเจ็บปวดมาก ”

“พ่อจะพาลูกกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ”

“ลูกอดทนอีกหน่อยนะ รอจนกว่าพ่อจะเอาหัวของฉินเทียนและเถี่ยหลินเฟิงมาวางไว้ข้างหน้าเจ้าก่อน เจ้าค่อยตาย……”

ด้วยความสิ้นหวัง เขาต้องปล่อยให้คน พาเซวเหรินกลับไปที่คฤหาสน์เก่าของตระกูลเซวในหลงเจียง

ใบไม้ร่วงกลับคืนสู่รากเหง้า

ต่อมาพวกเขาได้ความปรารถนาและปีนขึ้นไปเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง และเจริญรุ่งเรืองทั้งครอบครัว หลังจากที่ไม่ได้กลับมาหลายปี วัชพืชในสวนก็เติบโตขึ้นอย่างมาก

เขานั่งบนขั้นบันได รอให้ชุยหมิงนำหัวศัตรูมาให้

ๆ ร่างที่ดูหดหู่และเหงามาก

“ชุยหมิงนายกลับมาแล้ว ! ”

“นายไปตามหาเฉียงหลง ! “

“เฉียงหลงทรยศต่อฉีลิ่ว และทรยศต่อฉัน

แกฆ่าเฉียงหลงก่อน แล้วค่อยฆ่าฉินเทียน

ใบหน้าของชุยหมิง ดูซีดเซียว ราวกับว่าเขาอาศัยอยู่ในสุสานที่วุ่นวายมาหลายปี โดยไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์

เขาพูดด้วยท่าทางว่างเปล่า “ฉันเคยเห็นเฉียงหลงแล้ว”

“ตอนนี้ มาดูอาการบาดเจ็บของคุณชายเซว”