วิวาห์หวามสวาท ซีรีส์ชุด วิวาห์อ้อนรักลำดับที่๑
๔.๓ ปากบอกว่าไม่แต่ใจกลับหึง
พูดจบเขาก็ก้าวเข้าไปโอบรดาดาวโดยไม่รอให้วิคเตอร์อนุญาต จากนั้นก็พาเธอขยับไปตามจังหวะเพลงอย่างไม่สนใจอะไร ปล่อยให้วิคเตอร์เต้นรำกับแคทรีนต่อท่ามกลางความงุนงงของคนทั้งคู่
“สาวเรียบร้อยกับหนุ่มอบอุ่นอารมณ์ดี ดูเหมาะสมกันดีนี่” เสียงห้าวทุ้มพูดขึ้นอย่างหยันๆ ดวงตาเฉียบคมจ้องมองเธอนิ่ง
“คู่ของคุณก็ดูเหมาะสมกันดีเช่นกันค่ะ” รดาดาวตอบเขาออกไปอย่างราบเรียบ แต่ใบหน้านวลเชิดขึ้น ดวงตาเรียวหวานที่เคยมีแววเอียงอายอยู่เสมอเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้กลับเฉยเมยเย็นชาจนคนมองนึกหมั่นไส้
“เป็นอะไร ทำไมจะต้องทำท่าแบบนั้นใส่ผม หรือว่างอนที่ผมหายไปหลายวัน”
“เปล่าค่ะ เพียงแต่นิ่มคิดว่าไม่ควรจะทำตัวสนิทสนมกับคุณเกินไป”
“อ้อ ไม่อยากจะทำตัวสนิทสนมกับผม แต่อยากทำตัวสนิทสนมกับวิคเตอร์อย่างนั้นใช่ไหม” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการประชดประชัน
สาวน้อยไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมเขาต้องพูดเหมือนไม่พอใจที่เธอทำท่าทีเมินเฉย ทั้งๆ ที่เขาทำท่าไม่พอใจใส่เธอก่อน
“คุณวิคเตอร์ดูเป็นมิตรดีนี่คะ”
“ก็เลยยอมให้มันกอดง่ายๆ อย่างนั้นใช่ไหม”
“นิ่มไม่ได้ให้ใครกอดอย่างที่คุณกำลังกล่าวหานะคะ นิ่มก็แค่เต้นรำกับคุณวิคเตอร์ตามที่ป้าจูเลียขอร้องเท่านั้นเอง แต่ถ้าคุณเห็นว่านั่นคือการกอดก็แสดงว่าคนอื่นๆ ที่เต้นรำในฟลอร์นี้ทั้งหมดก็กำลังกอดกัน รวมทั้งคุณกับคนรักของคุณด้วย เห็นกอดกันแน่นยิ่งกว่าคู่ไหนๆ เสียอีก” รดาดาวตอบโต้คนพาลอย่างเหลืออด ทีตัวเองทำไม่เห็นเป็นไร แต่กลับมาขวางหูขวางตาคนอื่น
เอเดนทำเสียงบางอย่างในลำคอ ที่แท้คนที่เจ้ากี้เจ้าการก็คือมาดามแทลลีย์นี่เอง ไม่ได้เป็นลูกสะใภ้ก็จะเอาเป็นหลานสะใภ้ว่างั้นเถอะ แต่เขาไม่มีทางยอมให้แม่สมหวังง่ายๆ หรอก
“แสดงว่าคุณแอบมองผมอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นสิ ถึงได้รู้ว่าผมกอดแคทรีนแน่นหรือไม่แน่นแค่ไหน”
“นิ่มเปล่าแอบมองค่ะ ใครๆ เขาก็เห็นทั้งนั้น”
“อยากถูกกอดแบบนั้นบ้างไหมล่ะ” ไม่ถามเปล่าแต่ลำแขนแกร่งยังตวัดกอดเอวเล็กแนบชิดยิ่งกว่าเดิมคล้ายจะแกล้งให้เธอได้อาย รดาดาวได้แต่ขืนตัวเอาไว้ นึกอยากจะดิ้นและร้องโวยวายให้เขาปล่อยเธอ แต่ก็กลัวว่าจะตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นๆ
“นิ่มไม่ได้อยากถูกกอดค่ะ กรุณาปล่อยนิ่ม อีกอย่างคุณควรจะเกรงใจคนรักของคุณบ้างนะคะ”
“กอดแค่นี้ไม่สึกหรอหรอกน่ะรดาดาว” เขาหรี่ตาลงแคบๆ ทำหน้าหมิ่นๆ “ยิ่งกว่านี้ผมก็เคยทำมาแล้ว หรือต้องสาธยายให้ฟังว่าเราเคยทำอะไรกันบ้าง”
รดาดาวได้แต่หน้าร้อนผ่าวคล้ายกับโดนไฟอัง ทำไมจะจำไม่ได้ เธอจำได้อย่างแม่นยำทุกรายละเอียด ทุกคำพูด ทุกการกระทำของเขา พอๆ กับที่รู้ดีว่าทุกอย่างมันไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขามากไปกว่าแค่เห็นเธอเป็นดอกไม้ใกล้มือเอาไว้ดอมดมเล่นสนุกๆ เท่านั้นเอง
“กรุณาอย่าพูดในสิ่งที่มันผ่านไปแล้วค่ะ มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ”
“ทั้งกอด ทั้งจูบปากจูบหน้าอก นั่นน่ะเหรอที่คุณเรียกว่าอารมณ์ชั่ววูบ” เอเดนเค้นเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะกระชับอ้อมแขนรัดร่างเล็กแน่นกว่าเดิมราวกับคีมเหล็ก “อย่าพูดอะไรให้มันขัดกับบุคลิกของตัวเองหน่อยเลย คุณก็รู้ว่าคุณไม่เคยทำแบบนั้นกับใครนอกจากผม และคุณก็ชอบที่ผมทำซะด้วยสิ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะรดาดาวถ้าคุณคิดจะต่อให้จบ ผมอนุญาตให้ต่อกับผมได้คนเดียวเท่านั้น”
“คุณไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมากะเกณฑ์ชีวิตนิ่มนะคะ”
“อยากให้ผมทำให้ใครๆ เห็นไหมล่ะว่าผมมีสิทธิ์แค่ไหน” เขาไม่ได้แค่ขู่ แต่ก้มหน้าลงไปจนปากแทบจะประกบกับปากของเธอ ทำเอารดาดาวต้องรีบเบี่ยงหน้าหนีเป็นพัลวัน
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคะคุณเอเดน!”
“ถ้าไม่อยากให้ผมทำบ้าๆ ก็อย่าท้าทายผมอีก และเราจะได้เห็นดีกันแน่ ถ้าคุณยอมให้ผู้ชายคนอื่นโอบกอดหรือแตะเนื้อต้องตัวอีก ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังผม” คนเผด็จการข่มขู่ด้วยแววตาที่คาดโทษ
“นิ่มไม่ใช่คนปล่อยเนื้อปล่อยตัวนะคะ ถึงนิ่มจะเคยยอมให้คุณลวนลามง่ายๆ ก็ไม่ได้หมายความว่านิ่มจะยอมให้คนอื่นทำแบบนั้น”
“แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าเด็กดี อยากได้จูบเป็นรางวัลไหม” ใบหน้าหล่อคร้ามคมก้มลงกระซิบถามใกล้ๆ ใบหูเล็กๆ ขาวสะอาด น้ำเสียงนั้นบ่งบอกว่าอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิมมากโข
“ไม่นะคะคุณเอเดน ในนี้คนเยอะแยะ กรุณาอย่าทำให้นิ่มอับอายเลยนะคะ” เธอรีบส่ายหน้าปฏิเสธและตามด้วยอาการหัวใจกระตุกเมื่อเขายิ้มใส่ตาอย่างยั่วเย้า
“พูดเหมือนว่าถ้าคนไม่เยอะจะยอมให้ผมจูบอย่างนั้นล่ะ”
สาวน้อยเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “ปะ...เปล่านะคะ นิ่มไม่ได้หมายความแบบนั้น”
“เอาล่ะงานเลี้ยงจบแล้วแม่สาวน้อยซินเดอเรลล่า กลับบ้านไปนอนซะ แล้วก็ห้ามฝันถึงเจ้าชายคนไหน นอกจากผมคนเดียว”
เอเดนหยุดเต้นรำแล้วจูงมือเล็กพาเดินไปหาดาร์เลนและชมพูนุช บอกคนทั้งสองเสร็จสรรพว่า...รดาดาวอยากกลับบ้าน จากนั้นก็กลับไปหาแคทรีนที่ฟลอร์เต้นรำเช่นเดิม
“เธอเป็นใครเหรอคะ” นางแบบสาวสวยหุ่นสะโอดสะองถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่ได้บ่งบอกว่าโกรธเคืองที่เขาผละไปเต้นกับผู้หญิงคนอื่นแต่ประการใด
“คนที่มาดามแทลลีย์อยากจะได้เป็นลูกสะใภ้” เอเดนตอบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม
“งั้นเหรอคะ เป็นข่าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นมาก ชักจะอยากรู้แล้วสิคะว่าเธอเป็นใครมาจากไหน แล้วมีอะไรน่าสนใจ ถึงได้เข้าตาแม่ของคุณ”
“ไม่รู้สิต้องไปถามมาดามแทลลีย์เอง” เจ้าของร่างสูงยักไหล่พรืด
“แล้วคุณล่ะคะสนเธอหรือเปล่า แต่ฉันว่าคุณสนนะ”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น” หนุ่มหล่อขมวดคิ้วมุ่น
“ไม่รู้สิคะ อาจจะเป็นสัญชาตญาณของผู้หญิงมั้ง”
เอเดนไม่ตอบ แต่กลับแค่หัวเราะเบาๆ และทำหน้านิ่งเฉยยากแก่การอ่านว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่ หากแต่การกระทำก่อนหน้านี้ของเขาก็ทำให้แคทรีนรู้ว่าเธอคาดเดาไม่ผิด
เมื่อถึงบ้านรดาดาวก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเข้านอน ตาคู่สวยหลับลง นึกอยากจะฝันถึงผู้ชายอื่นอย่างที่เอเดนห้าม แต่ก็ทำไม่ได้เพราะความคิดทั้งหมดทั้งมวลของเธอวนเวียนหาแต่เขาคนเดียว ทั้งใบหน้า การกระทำ และทุกคำพูดของเขา เธอจดจำได้อย่างแม่นยำ และนั่นพานทำให้เธอนอนไม่หลับเอาเสียดื้อๆ
กริ๊ง...ง
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในยามดึก ทั้งๆ ที่มันไม่ดังมาหลายวันแล้ว มือเล็กเอื้อมไปหยิบมาถือไว้ด้วยหัวใจที่เต้นแรงระทึก เบอร์ที่แสดงบนหน้าจอเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึก แต่เธอก็คาดเดาว่าคงจะไม่ใช่ใครนอกจากคนเผด็จการ ที่นึกอยากจะดีก็ดี อยากจะร้ายก็ร้าย
รดาดาวแอบย่นจมูกใส่โทรศัพท์ด้วยความรู้สึกที่ก้ำกึ่งว่าจะรับสายของเขาดีหรือไม่ แต่สุดท้ายนิ้วเล็กๆ ก็กดปุ่มรับสายก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู
“สวัสดีค่ะ” เธอตอบไปสั้นๆ และกลั้นใจรอฟังว่าเขาจะตอบกลับมาว่ายังไง
“สวัสดีครับนิ่ม นี่ผมวิคเตอร์นะ นิ่มนอนหรือยัง”
สาวน้อยอยากจะหลอกตัวเองว่าไม่ได้ผิดหวัง แต่หัวใจกลับเอียงวูบไปครู่หนึ่งเมื่อคนโทร.มาไม่ใช่คนที่คาดเอาไว้ทั้งๆ ที่พอจะเดาออกว่าตอนนี้เขาคงจะอยู่กับคนรักของเขา
วิวาห์หวามสวาท ซีรีส์ชุด วิวาห์อ้อนรักลำดับที่๑