วิวาห์หวามสวาท ซีรีส์ชุด วิวาห์อ้อนรักลำดับที่๑

๙.๒ ผู้หญิงของเอเดน

พอรับประทานอาหารเสร็จ ดาร์เลนและชมพูนุชก็ออกไปด้วยกัน ส่วนรดาดาวเรียกแท็กซี่พาน้องชายทั้งสองคนไปส่งที่โรงเรียนประจำ

รถแท็กซี่แล่นมาถึงหน้าโรงเรียนที่เดฟและดีแลนด์เรียนอยู่ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา บรรยากาศหน้าโรงเรียนยามเช้าค่อนข้างคึกคักเพราะเป็นเช้าวันจันทร์ เหล่าบรรดาผู้ปกครองต่างมาส่งลูกหลานของตัวเอง บ้างก็มาด้วยรถส่วนตัวหรูหรา บ้างก็ใช้บริการรถแท็กซี่เหมือนกับที่รดาดาวใช้ “พี่นิ่มเข้าไปส่งผมกับเดฟในโรงเรียนนะฮะ” ดีแลนด์หันมาอ้อนอีกครั้งหลังจากที่รดาดาวจ่ายค่าแท็กซี่เพราะอยากให้เพื่อนๆ ได้เห็นว่าพี่สาวของตัวเองสวยแค่ไหน

“ได้จ้ะ” รดาดาวยิ้มให้น้องและก้าวลงจากรถ

จากนั้นเดฟและดีแลนด์ก็จูงมือของรดาดาวคนละข้างพาเดินเข้าไปโรงเรียนอย่างภูมิใจ โดยทุกครั้งที่เจอเพื่อน ดีแลนด์ก็จะแนะนำรดาดาวให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก และยิ้มหน้าบานที่เพื่อนชมว่าพี่สาวของตัวเองสวยน่ารัก

สองหนุ่มน้อยและหนึ่งสาวเดินมาจนกระทั่งบริเวณที่อาจารย์รอรับอยู่ รดาดาวจึงย่อตัวลงเพื่อบอกลาน้องชายทั้งสองคน

“พี่ส่งแค่นี้นะคะเดฟ ดีแลนด์ เอาไว้เจอกันวันเสาร์นะ”

“ฮะพี่นิ่ม” ทั้งสองหนุ่มต่างพยักหน้า

“เป็นเด็กดีนะคะ”

“ดีอยู่แล้วฮะ พี่นิ่มไม่ต้องห่วงหรอก” ดีแลนด์เป็นฝ่ายรับปาก

“งั้นพี่กลับก่อนนะ”

“บายฮะ”

เดฟกับดีแลนด์หอมแก้มรดาดาวคนละข้าง โบกมือให้เธอตามแบบเด็กผู้ชาย ก่อนจะเดินไปทักทายอาจารย์ รดาดาวยืนมองจนมั่นใจว่าสองหนุ่มอยู่ในความดูแลของโรงเรียนเรียบร้อยแล้วจึงค่อยหันหลังกลับออกไปที่หน้าโรงเรียน เพื่อโบกรถแท็กซี่กลับบ้าน

ร่างอ้อนแอ้นยืนบนฟุตบาทมองรถที่แล่นมาคันแล้วคันเล่าอย่างรอคอยว่าเมื่อไหร่รถแท็กซี่คันที่ไม่มีผู้โดยสารจะแล่นผ่านมาเสียที และในขณะนั้นเองก็มีรถคาดิลแลคสีดำคันหนึ่งแล่นมาจอดเทียบฟุตบาท รดาดาวไม่ได้สนใจมองเพราะกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการรอแท็กซี่ ร่างสูงของใครบางคนก้าวลงจากตอนหลังของรถคันนั้นแล้วมาฉุดแขนของเธอเอาไว้ สาวน้อยหันขวับมามองอย่างตกใจ กำลังจะร้องให้คนช่วยแต่ก็หยุดเอาไว้เสียก่อนเมื่อเห็นว่าคนที่ถือวิสาสะเข้ามาจับแขนของตนอย่างอุกอาจนั้นเป็นใคร

“เอเดน!”

“ไปกับผม” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นและกระตุกแขนเธอเบาๆ ให้เดินตามไปที่รถ

“ไปไหนคะ แล้วคุณมาได้ยังไง” เธอถามพลางขืนตัวเองเอาไว้ ทั้งๆ ที่ตื่นเต้นและดีใจไม่น้อยที่ได้เจอเขาอีกครั้งหลังจากทะเลาะกันวันนั้น

“นิ่มกำลังจะไปไหนล่ะ”

“นิ่มกำลังจะกลับบ้านค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นรถสิ”

“คุณจะไปส่งนิ่มเหรอคะ” ถามเขาไปเบาๆ เพราะไม่มั่นใจว่าตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ไหน

“ใครจะปล่อยให้เมียยืนแกร่วรอแท็กซี่อยู่ข้างถนนอย่างนี้ล่ะ”

“เอ่อ...” รดาดาวชะงักไปครู่หนึ่ง เขายังพูดคำว่า ‘เมีย’ อย่างหนักแน่น แต่หน้าเขาสิทำไมบึ้งตึงนักก็ไม่รู้

“ไปได้แล้ว”

เอเดนกระตุกแขนเธออีกครั้ง และครั้งนี้รดาดาวยอมเดินตามเขาไปขึ้นรถแต่โดยดี ทั้งสองขึ้นมานั่งเคียงข้างกันบนเบาะหลัง ก่อนที่เอเดนจะสั่งบอดี้การ์ดของเขาให้ออกรถ

รถคาดิลแลคคันหรูแล่นอย่างนุ่มนวล มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางซึ่งไม่ใช่ทางกลับบ้านของรดาดาว สาวน้อยหันขวับมามองหน้าสามีทางพฤตินัยของตัวเองซึ่งนั่งนิ่งขรึมอยู่ข้างๆ แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจ

“นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของนิ่มนี่คะเอเดน คุณกำลังจะพานิ่มไปไหนคะ”

“ไปสนามบิน”

“ไปสนามบินอย่างนั้นเหรอคะ ถ้าคุณมีธุระนิ่มกลับเองก็ได้นะ”

“ผมกำลังจะไปแคลิฟอร์เนีย จะพานิ่มไปด้วย”

“ก็ไหนคุณบอกว่าจะหาคนอื่นไปด้วยไม่ใช่เหรอคะ”

“พอดีขี้เกียจหา มีเมียแล้วจะหาคนอื่นไปด้วยให้วุ่นวายทำไม” เอเดนตอบเรียบๆ ง่ายๆ และไม่ได้สนใจท่าทีกระสับกระส่ายของเธอเลยสักนิด เพราะรู้อยู่แล้วว่ารดาดาวไม่เต็มใจจะไปกับเขา ถ้าไม่ใช้วิธีนี้มีหรือที่กระต่ายแสนดื้อจะยอม

“คนเจ้าเล่ห์ ทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการลักพาตัวนิ่มนะคะ ถ้าอาชมรู้เข้าจะต้องไม่พอใจแน่ๆ”

“คุณซาร่ารู้และให้พาสปอร์ตของนิ่มกับผมมาแล้ว” เอเดนล้วงกระเป๋าเสื้อสูทเอาเอกสารทั้งสองอย่างที่ว่าออกมาชูให้เธอดู

“นี่อาชมก็รู้เห็นเป็นใจกับคุณเหรอคะ” สาวน้อยถามออกมาอย่างเคืองขุ่น

“อาของคุณก็แค่อยากให้คุณไปพักผ่อนบ้าง”

“แต่นิ่มไม่มีเสื้อผ้านะคะ ยังไงก็ต้องกลับไปเอาก่อนอยู่ดี” เมื่อรู้ว่าผู้ใหญ่ฝ่ายตนไฟเขียวเปิดทางให้เอเดน รดาดาวจึงเสียงอ่อนลง เพราะรู้ว่าดึงดันไปก็ไร้ประโยชน์

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ผมสั่งให้คนเตรียมเสื้อผ้าให้นิ่มแล้ว ทั้งชุดนอกและชุดชั้นใน” เสียงทุ้มบอกอย่างรื่นรมย์ ก็แน่ล่ะในเมื่อทุกอย่างเข้าทางเขาแล้วนี่

“แล้วคุณจะพานิ่มไปพักที่ไหนคะ”

“ผมมีบ้านพักตากอากาศที่นั่น”

“ไม่นะคะ นิ่มยอมไปกับคุณก็ได้ แต่จะไม่พักที่นั่น ถ้าคุณจะพักที่บ้านพักตากอากาศของคุณก็พานิ่มไปหาโรงแรมก่อน นิ่มจะพักโรงแรมค่ะ”

“โอเคนิ่ม ผมจะยอมพักโรงแรมกับคุณ”

“ไม่ใช่ค่ะ ต่างคนต่างอยู่ คุณต้องเปิดห้องพักสองห้อง ไม่อย่างนั้นก็จอดรถให้นิ่มลงตรงนี้” รดาดาวยื่นคำขาด เธอตั้งใจแล้วว่าจะไม่ยอมทอดกายให้เขาเชยชมแบบไม่เห็นค่าอีกเด็ดขาด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาหนทางป้องกันความใกล้ชิดแบบสองต่อสองในสถานที่ส่วนตัวทุกวิถีทาง

“ตกลงนิ่ม สองห้องก็สองห้อง” เอเดนยอมอย่างว่าง่าย

“ขอบคุณค่ะ”

เมื่อคนเจ้าเล่ห์ยอมรับปาก รดาดาวจึงค่อยคลายใจและยอมพูดจาดีด้วยเมื่อเขาชวนคุยในเรื่องอื่นๆ จนกระทั่งทั้งคู่ขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวที่สนามบินนานาชาติคลีฟแลนด์ฮ็อปกินส์ซึ่งเป็นท่าอากาศยานพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในรัฐโอไฮโอ เพื่อมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนีย


วิวาห์หวามสวาท ซีรีส์ชุด วิวาห์อ้อนรักลำดับที่๑
คุณสามารถใช้ปุ่มลูกศรซ้าย/ขวาเพื่อถอยหลัง/ไปข้างหน้า
ประเมิน: 10.0/10 จาก 22 โพล
loading...