วิวาห์หวามสวาท ซีรีส์ชุด วิวาห์อ้อนรักลำดับที่๑

ในอีกเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวที่สั่งประกอบจากบริษัทแอร์บัสและถูกตกแต่งภายในอย่างหรูหราก็ร่อนลงจอดบนรันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิอย่างนุ่มนวลตามประสิทธิภาพของเครื่องและนักบินที่มีชั่วโมงบินสูง พอผู้เป็นเจ้าของและคู่หมั้นสาวก้าวลงจากเครื่องและทำการตรวจสอบเอกสารเสร็จสรรพแล้วก็มีรถยนต์คันหรูมารอรับ รดาดาวรู้ว่าคนที่มารับเป็นคนไทย แต่ไม่รู้ว่าคนคนนี้มาทำงานให้กับเอเดนได้อย่างไร ทว่าก็ไม่ได้แปลกใจเท่าใดนักเพราะมหาเศรษฐีระดับเขาบันดาลได้ทุกอย่างภายในพริบตาอยู่แล้ว

ดวงตาคู่สวยมองไปรอบๆ อาณาบริเวณของแผ่นดินแม่ที่ตัวเองเหยียบย่างอยู่ด้วยความสุขใจ นานเกือบสองเดือนแล้วที่จากที่นี่ไป และเมื่อได้กลับมาอีกครั้งก็ยิ่งรู้สึกรักและหวงแหนแผ่นดินนี้มากกว่าเดิม

เอเดนขึ้นรถคันนั้นไปอยุธยากับรดาดาวกันตามลำพัง ส่วนบอดี้การ์ดและนักบินของเขาถูกสั่งให้พักที่กรุงเทพฯ

รถคันหรูแล่นจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ รดาดาวนั่งมองวิวข้างทางและหันมาทางคนข้างๆ ด้วยสายตาที่เปล่งประกายแห่งความซึ้งใจ

“ขอบคุณมากนะคะที่พานิ่มกลับมา เหมือนฝันเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้นิ่มกำลังจะกลับถึงบ้าน” เรียวปากสีระเรื่อคลี่ยิ้มออกมา เธอไม่ได้บอกพ่อกับแม่ก่อนว่าจะกลับมาวันนี้ ท่านทั้งสองรวมทั้งยายและน้องชายของเธอคงจะแปลกใจและดีใจมากที่จู่ๆ ก็เห็นเธอปรากฏตัวที่บ้าน

“ความจริงเมื่อวานนิ่มติดคำขอบคุณผมอยู่นะ”

“ติดที่ไหนคะ นิ่มขอบคุณไปแล้ว”

“แค่นั้นยังไม่น่ารักพอ ผมต้องการมากกว่านั้น” เขายื่นหน้ามากระซิบใกล้ๆ และทำท่าจะหอมแก้มใสสักฟอด แต่รดาดาวรู้ทันจึงรีบเอนตัวหลบเพราะรู้สึกอายคนขับรถ

“อย่ารุ่มร่ามสิคะเอเดน ที่นี่เมืองไทยนะคะ นิ่มอายเขา”

“ถ้าอย่างนั้นติดไว้ก่อน เดี๋ยวจะถอนทุนคืนทั้งต้นทั้งดอกให้คุ้ม” ดวงตาสีฟ้าคู่คมหรี่ลงอย่างคาดโทษ น้ำเสียงและสีหน้าของเขาพลอยทำให้รดาดาวรู้สึกหวามใจไปด้วย รู้ดีว่าสามีทางพฤตินัยของตัวเองจะถอนทุนแบบไหน พอนึกถึงคำว่า ‘สามีทางพฤตินัย’ สาวน้อยก็เกิดความรู้สึกยุ่งยากใจขึ้นมาทันทีเพราะไม่รู้ว่าจะแนะนำเอเดนให้คนในครอบครัวรู้จักในฐานะอะไรดี เพื่อน คนรัก หรือว่าที่เจ้าบ่าว เพราะเธอไม่รู้ว่าชมพูนุชบอกเรื่องของเอเดนให้พ่อแม่ของเธอรู้มากแค่ไหนแล้ว อีกทั้งเขาเองก็ยังไม่เคยคุยกับเธอจริงจังเสียทีว่าจะแต่งงานด้วยเมื่อไหร่

รถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านไม้ทรงไทยแบบดั้งเดิม มีชานยื่นออกมาด้านข้าง รอบๆ บริเวณรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น สร้างอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา รดาดาวรีบเปิดประตูและก้าวลงจากรถด้วยความดีใจ แต่แล้วคิ้วเรียวก็ย่นเข้าหากันอย่างสงสัย เพราะตอนนี้บ้านของเธอไม่ได้เงียบสงบเหมือนอย่างเคย แต่กลับมีผู้คนแต่งตัวสวยงามแบบไทยเดินพลุกพล่าน เมื่อเธอและเอเดนก้าวลงจากรถ ทุกคนในที่นั้นก็หันมามองเป็นตาเดียวกัน จากนั้นพ่อและแม่ของเธอก็เดินออกมารับด้วยสีหน้าแช่มชื่น

“มากันแล้วเหรอน้องนิ่ม”

“พ่อคะ แม่คะ” สาวน้อยโผเข้ากอดผู้เป็นพ่อ ก่อนจะผละไปกอดผู้เป็นแม่ด้วยความดีใจ จนลืมไปว่าทำไมทั้งสองท่านจึงไม่แปลกใจต่อการมาของเธอสักนิด

“เดินทางปลอดภัยดีนะลูก”

“ปลอดภัยดีค่ะ แล้วทำไมคนมาบ้านเราเยอะจังคะแม่” สาวน้อยเอ่ยถามมารดาพลางมองไปรอบๆ อีกครั้ง

“ทุกคนก็มางานแต่งงานของหนูกับคุณเอเดนน่ะสิลูก รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะจะได้เข้าพิธีและถวายเพลพระ ได้ฤกษ์สายหน่อยแต่ก็เป็นฤกษ์ดี” รจนาบอกลูกสาวด้วยรอยยิ้ม ทำให้รดาดาวรีบหันไปทางร่างสูงที่ยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง และตอนนี้มีรถอีกคันแล่นมาจอดหน้าบ้าน ซึ่งคนที่ก้าวลงมานั้นก็คือพ่อแม่ของเอเดน และชมพูนุชกับอาเขยของรดาดาว

“นี่มันอะไรกันคะเอเดน”

“ก็งานแต่งงานของเราไงล่ะที่รัก ผมรู้ว่าคุณคงอยากแต่งที่ไทยก่อน แล้วค่อยกลับไปแต่งที่อเมริกาอีกที” เอเดนตอบยิ้มๆ พลางสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกงอย่างมาดมั่น

รดาดาวทั้งงง ทั้งแปลกใจ และดีใจระคนกันไปหมด ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอได้แต่เก็บความน้อยใจเอาไว้คนเดียว แต่แท้จริงแล้วเอเดนและครอบครัวของเธอตระเตรียมทุกอย่างไว้เสร็จสรรพแล้ว

“คนเจ้าเล่ห์ ไม่ยอมบอกกันสักนิด” เสียงหวานบ่นพึมพำ

“แล้วตกลงนิ่มจะแต่งกับผมไหม แต่นิ่มคงรู้นะว่าผมไม่ชอบการถูกปฏิเสธ”

“คนเผด็จการ”

รจนาหันไปสบตากับสามีแล้วยิ้ม แม้เธอจะฟังภาษาอังกฤษไม่ออก แต่ก็พอจะรู้ว่าลูกสาวของตัวเองกำลังถกเถียงกับผู้ชายที่กำลังจะมาเป็นลูกเขยของเธอ จึงรีบเอ่ยห้าม

“เอาล่ะจ้ะลูก รีบไปอาบน้ำแต่งตัวกันได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์นะจ๊ะ”

ชุมพลพ่อของรดาดาวหันไปบอกว่าที่ลูกเขยเป็นภาษาอังกฤษอีกที เอเดนจึงจูงมือเล็กขึ้นบ้านเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวแบบไทยๆ ที่ถูกตระเตรียมเอาไว้พร้อมกับช่างแต่งหน้าที่รออยู่ก่อนแล้ว

จากนั้นเสียงแตรวงและขบวนแห่ขันหมากของเจ้าบ่าวก็เริ่มขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่ชื่นมื่นและรอยยิ้มแสนสุขของญาติผู้ใหญ่ เจ้าบ่าวเจ้าสาว และแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน

ในอีกสองสัปดาห์ต่อมาพิธีแต่งงานของเอเดนและรดาดาวก็ถูกจัดขึ้นตามแบบคริสต์อีกครั้งที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองคลีฟแลนด์ ส่วนพิธีฉลองเป็นไปอย่างเรียบง่าย เชิญเฉพาะคนในครอบครัวและคนสนิทมาร่วมงานตามความต้องการของเจ้าสาว