พ่ายรักสาวพรหมจรรย์
บทที่ 2 (2)
“มาดูนายนะสิ เมื่อคืนเห็นว่านายเมามากกลัวว่าจะลุกไม่ไหว เลยแวะมาดูก่อนที่จะไปทำงาน”
“ฮื่อ” ชายหนุ่มครางในลำคอ “นายก็เห็นแล้วนี่ว่าฉันสบายดี” เขายักไหล่จากนั้นก็เดินไปล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวใหญ่อีกครั้ง
“ไล่เลยเหรอ” นพคุณหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ “นายลุกขึ้นอาบน้ำเตรียมไปทำงานเถอะ วันนี้มีประชุมช่วงบ่ายนะ ลืมแล้วเหรอ”
“ไม่ลืม แต่ฉันยังไม่พร้อมจะลุก ฉันพร้อมเมื่อไหร่จะลุกขึ้นเอง นายรีบก็ไปก่อนเถอะนพ ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอก ฉันอายุ 26 แล้วนะ รู้ผิดชอบชั่วดีทุกอย่าง”
“เออ รู้ดีทุกอย่าง แต่ทำไมเมื่อคืนถึงได้ดื่มหนักขนาดนั้น มันไม่ใช่นิสัยของนายเลยนะกิติ นายเป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร” เขาหันมายิ้มเหยียดที่มุมปาก “แล้วตกลงเมื่อวานตอนบ่ายนายได้เบอร์ของผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า”
“ผู้หญิงคนนั้น ? คนไหนวะ” นพคุณหันมามองอีกฝ่ายด้วยท่าทางงงงัน
“คนที่กล้าต่อปากต่อคำกับฉันนั่นไง” ชายหนุ่มตอบเสียงกระด้าง เท่านั้นยังไม่พอ…เขายังชักสีหน้าใส่เพื่อนรักอย่างหงุดหงิด
นพคุณพยักหน้าหงึกหงัก “อ้อ คนสวยคนนั้นนั่นเอง”
“หึ…” กิติศักดิ์ทำเสียงหมิ่นใส่คำชมของเพื่อน “นายมองยังไงว่ายัยนั่นสวย ผอมโย่งหุ่นเหมือนไม้กระดาน”
นพคุณขมวดคิ้วมองเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ กิติศักดิ์มองสาวสวยคนนั้นว่าผอมโย่งหุ่นไม้กระดานไปได้อย่างไร ทั้งๆที่ผู้หญิงคนนั้นออกจะมีรูปร่างสูงสง่า อีกทั้งหน้าตาก็สะสวย “นั่นเขาไม่เรียกว่าไม้กระดานแล้ว เขาเรียกเนื้อนมไข่ อัดแน่นไปด้วยแหล่งโปรตีนและแร่ธาตุ” เขากล่าวแก้ด้วยน้ำเสียงเหมือนเคลิ้มฝัน
กิติศักดิ์หน้าตึงอย่างไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายบรรยายหุ่นของแม่สาวปากกล้าให้เขาฟัง “เลิกวิจารณ์รูปร่างของแม่นั่นเลยนะ”
“หวงหรือไง ฉันแค่พูดถึงรูปร่างของเขาที่ต่างจากนายพูด นายถึงกับไม่พอใจ นี่แสดงว่านายแอบสนใจเขาอยู่ล่ะสิ”
“เปล่า ใครจะไปสนใจผู้หญิงหิวเงินพรรค์นั้น”
“นั่นปากหรือไง เขาไม่ใช่คนหิวเงิน พูดจาอะไรระวังปากเอาไว้บ้างสิ พูดถึงผู้หญิงก็ควรให้สุภาพหน่อยสิเพื่อน”
“เออ นี่แหละปากของฉัน ฉันจะพูดแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงยโส
“คุณคนนั้นเธอออกจะสวยน่ารัก เธอไม่ได้สนใจเรื่องเงินทองอะไรอย่างที่นายคิดสักนิด”
นพคุณพูดแก้ต่างแทนหญิงสาวที่เพิ่งพบเจอมาเมื่อวาน ยิ่งสร้างความรู้สึกที่หงุดหงิดให้กับกิติศักดิ์มากขึ้น
“เจอหน้าเจ้าหล่อนแค่พักเดียว แกเป็นไปได้ถึงขนาดนี้เลยหรือไง สงสัยโดนเสน่ห์ยาแฝดของแม่นั่นโปรยใส่ถึงได้เป็นแบบนี้”
“บ้า ไม่ใช่โว้ย ฉันแค่เห็นว่าน้องเขาน่ารักดี อีกอย่างก็รู้สึกสงสารเขาที่ถูกนายแกล้งไปถามซื้อตัว”
“ฉันไม่ได้แกล้ง แต่ฉันอยากจะซื้อจริงๆ” ชายหนุ่มตอบเพื่อนเสียงหนัก แล้วเสริมอีกว่า “ผู้หญิงท่าทางอวดดีแบบนั้นน่าปราบพยศ”
“อ้อ อยากจะได้มาเป็นนางบำเรอ” นพคุณพูดเสียงขรึม เขาเกลียดนิสัยที่ชอบดูถูกผู้หญิงของกิติศักดิ์ เกลียดที่มองผู้หญิงเป็นของเล่น แต่ก็น่าแปลกที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะชอบผู้ชายหน้าเข้มอย่างกิตติศักดิ์มากกว่าหนุ่มขาวตี๋อย่างเขา
“ทำไมล่ะ นางบำเรอก็ดีแล้วสำหรับ...เธอคนนั้น”
“นายเลิกดูถูกผู้หญิงเพศแม่ของแกเสียทีเถอะกิติ” นพคุณพูดเสียงต่ำด้วยความไม่พอใจ
“หึ เพศแม่อย่างนั้นเหรอ” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างเซ็งๆ จากนั้นก็หุบปากสนิท มีเพียงดวงตาของเขาเท่านั้นที่ทอประกายหมิ่นแคลนในคำพูดของนพคุณ
เมื่อเห็นว่าเพื่อนเลือกที่จะนิ่งแทนการโต้เถียง นพคุณจึงได้แต่ยักไหล่ กิติศักดิ์เป็นคนยึดมั่นถือมั่นเชื่อความคิดของตัวเองมากกว่าความรู้สึก เขาจึงตัดบทว่า
“นายอยากจะทำอะไรทำไป ฉันก็แค่แวะมาดูเพียงเท่านี้” นพคุณกวาดตามองรอบห้องเพื่อนหนุ่มอีกครั้ง “ฉันไปทำงานก่อน แล้วช่วงบ่ายมีประชุมนายก็อย่าลืมล่ะ”
พ่ายรักสาวพรหมจรรย์