มหายุทธ์ สะท้านภพ
บทที่ 520
เกาเหลียนหงใจเต้นรัว ถือขวดหยกที่บรรจุยาไว้อย่างระมัดระวัง ถอยออกไปจากตำหนักวัฏสงสารอย่างเคารพนับถือ
เดิมเขาคิดว่าตนเองจะต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีที่จะไปถึงขั้นแดนมกุฎยุทธ์ ไม่คิดว่าจะได้เจอโอกาสแบบนี้ ณ เวลานี้หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความซาบซึ้งและเกรงกลัวหลัวซิว
ซาบซึ้งที่หลัวซิวมอบโอกาสนี้ให้เขา เกรงกลัวที่แม้แต่ยามแบบนี้ยังสามารถมอบให้เขาได้ งั้นความสามารถของเจ้าสำนัก จะแข็งแกร่งถึงขนาดไหน?
จากนั้น หลัวซิวก็หันไปมองสวีจิงเหนียน ให้ยาที่ทำมาจากแก่นร่างทองแก่เกาเหลียนหงแล้ว สวีจิงเหนียนเองก็เป็นผู้คุมกฎ จึงจะลำเอียงไม่ได้
เห็นเพียงเขาดีดนิ้ว มีแสงเปล่งประกายออกมา ตรงหน้าสวีจิงเหนียน ปรากฏแท่นบัวทิพย์ห้าสี
“ผู้คุมกฎสวี เจ้าฝึกตนมายาวนานที่สุด จะว่าไปแล้ว พื้นฐานและศักยภาพมีจำกัด หากไม่มีเหตุบังเอิญ ชั่วชีวิตนี้เจ้าสามารถไปถึงได้มากสุดคือแดนมกุฎยุทธ์ ไม่มีความหวังมากกว่านี้” หลัวซิวพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า
กระทั่งหากไม่มีสภาพการฝึกสอนของสำนักไท่เสวียน ที่มีหอฝึกฝนแดนปริศนา มียาให้ทุกเดือน
ก่อนหน้านี้เกาเหลียนหงที่เป็นผู้คุมกฎเหมือนกันได้ยาที่ทำมาจากแก่นร่างทอง ทำให้ในใจสวีจิงเหนียนตื่นเต้นอย่างมาก เขารู้ว่าในเมื่อหลัวซิวพูดเช่นนี้ ยังไงก็ยังมีความหวังแน่นอน
สามารถรวบรวมพลังฟ้าดินให้กลายเป็นปราณทิพย์ ปราณทิพย์สามารถชำระล้างร่างกาย ดับขจัดสิ่งสกปรก
เทียบกับยาแก่นร่างทองแล้ว แท่นบัวทิพย์ห้าสีนี้
ไม่อย่างนั้น ต่อให้มอบยาแก่นร่างทองให้เขา ด้วยร่างกายที่เสื่อมโทรมของเขา เกรงว่าคงไม่มีโชคที่จะได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากยา
แล้วหลัวซิวก็หันไปมองหลินจื่อเฟิง ภายในสำนักไท่เสวียนในตอนนี้ คนที่เขาไว้วางใจ มีเพียงไม่กี่คนนี้
หลัวซิวเอายาอสูรหมีเยือกเนตรพิษให้เขา มียาตัวนี้ เขาฟันฝ่าไปถึงแดนจักรพรรดิยุทธ์ ถือเป็นง่ายมาก
ส่วนเหยียนเยว่เอ๋อร์ หลัวซิวเอาหินตรีภพอันที่สองออกมา
ตอนที่เขาฟันฝ่าไปถึงแดนจักรพรรดิยุทธ์ ไม่ได้ใช้พลังในหินตรีภพจนหมด ยังเหลืออีกประมาณสามส่วน
มหายุทธ์ สะท้านภพ